สรรสาระ : การสัมผัสถึงคุณภาพ และ ขนนกที่ดี

2013-11-20 20:08:08 ใน สรรสาระ »

2453

สวัสดีครับ

สรรสาระก็กลับมาให้พวกเราได้อ่านกันอีกครั้ง ก็ต้องขออภัยที่ไม่ได้เขียนมาให้อ่านกันพอควร ก็ติดงาน ติดหน้าที่ประจำกันนานพอควร

ขอบคุณครับที่หลายๆท่านได้ถามถึงกัน ก็จะนำเรื่องราวดีๆมานำเสนอถึงกัน

ส่วนเรื่องรางวัลพิเศษสำหรับสมาชิกก็ไม่ได้ลืมนะครับ เตรียมไว้บ้างแล้ว ก็สำหรับผู้ที่โชคดีก็จะประกาศช่วงปีใหม่ครับ (สำหรับผู้ที่สมัครสมาชิกนะครับ)

วันนี้ก็มีบทความดีๆมาสื่อถึงกัน ก็ลองอ่านกันนะครับ

การสัมผัสถึงคุณภาพ และ ขนนกที่ดี

การสัมผัสถึงคุณภาพ

นักเลี้ยงนกที่มีประสบการณ์ที่ดีเวลาที่เขาจับนกนั้นหลายท่านคงคิดและถามตัวเองว่าเขาดูอะไร เขาเห็นอะไร และ อะไรเป็นตัวชี้วัดให้เขาวิจารณ์นกตัวที่เขาจับดูอยู่นั้น?
โดยรวมแล้วเขาจะดูหลายๆอย่างประกอบกันครับ เขาจะดูว่านกที่เขาถืออยู่นี้ดีหรือไม่ เขาจะตัดสินใจจากการที่เขาได้จับนกดู สัมผัสรูปร่าง โครงสร้าง ความกลมกลืนที่เรามักเรียกกันว่าสมส่วน รูปร่างพริ้วลม ทักษะความสามารถนี้มาจากวันและเวลาที่สั่งสมมาได้สอนเขาให้เรียนรู้มาตลอด ดังนั้นการที่เขาสามารถคัดหรือคาดเดาได้ถึงคุณสมบัติของนกที่จับนั้นว่าดีหรือไม่ เหมาะที่จะเลี้ยงจะเก็บหรือกำจัดทิ้งนั้นก็มาจากพื้นฐานหลักๆที่ว่าคือ “การสัมผัส จับนกดู” นี่เอง

คนที่เลี้ยงนกเก่งนั้นเขาไม่เก็บนกที่เขาจับดูแล้วมี ”คุณสมบัติแย่” ไว้ในกรงแน่ เขาไม่เลี้ยงให้เกะกะและเสียเวลาเขาแน่ เพราะโอกาสที่นกเหล่านี้จะชนะได้ดีนั้นต่ำมาก พวกเขามักจะกำจัดนกเหล่านี้ออกจากกรงก่อนช่วงช้อมนกเพื่อที่จะใช้เวลาเน้นๆกับนกที่เขาดูแล้วดีมีอนาคต หลายท่านอาจถามว่าคนที่เลี้ยงนกเก่งนั้นหมายถึงอย่างไร? เอาง่ายๆก็คือพวกคนที่เขาเลี้ยงนกชนะบ่อยๆ อันดับดีๆ สม่ำเสมอ หรือไม่ก็เป็นพวกที่เพาะนก ผสมพันธุ์เก่งอย่างมูลีมันส์ก็ได้ มูลีมันส์นั้นทั้งชีวิตชอบที่จะเพาะนกให้หุ้นส่วนแข่งมาทั้งชีวิต ช่วงหลังๆก็เพาะให้ลูกสาวแข่ง และเปลี่ยนแนวทางมาเลี้ยงนกทางไกลโดยหานกไกลจากคนเก่งๆมาเข้าคู่บ้างก็มีสายนกคู่ทองรุ่นเก่ามาครอสบ้าง ผลที่ได้ก็ยังเก่งเช่นเคย เขาเป็นนักผสมพันธุ์นกที่ทั่วโลกยอมรับให้เป็นยอดเซียนของโลกคนหนึ่ง บ้านเราก็มีเพื่อนๆนักเลี้ยงนกจำนวนไม่น้อยที่เขาไม่มีเวลาเลี้ยงนกแข่ง แต่เลี้ยงนกพันธุ์และส่งเข้าแข่งบ้างที่กรงเพื่อน กรงอินเตอร์ หรือ นานาชาติก็มี พลายๆท่านก็ได้เรียนรู้เก็บประสบการณ์การเข้าคู่นกกันได้มากพอควรก็มีครับ

สิ่งหนึ่งที่เราควรเข้าใจให้ดีก็คือความสามารถในการแข่งขันนั้นไม่สามารถวัดคำนวนได้จากคุณสมบัติของโครงสร้าง สรีระ เพียงอย่างเดียว เราต้องเข้าใจถึงเรื่องหลักที่สำคัญมากอีกสองอย่างที่ต้องมีควบคู่กันไปคือการสรรหาคัดเลือกนกพันธุ์ที่ดีและการเข้าคู่ที่เป็นศาสตร์เพื่อให้ได้นกแข่งที่มีสรีระ โครงสร้างที่ดี เหมาะสำหรับแข่ง สองเรื่องนี้เป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ

หลายท่านอาจสงสัยว่าเมื่อจับนกดูเราดูอะไรหรือ? เราควรให้ความสนใจอะไร?

ก็อย่างที่ได้เกริ่นไว้ช่วงต้น หลักๆแล้วเราควรสนใจเป็นพิเศษก็คือ คุณภาพและสุขภาพของขนนก, ปีก, โครงสร้างความสมส่วนของนก ซึ่งถ้าเราเข้าใจ ใส่ใจในรายละเอียดมันก็จะทำให้เรามีการพัฒนาทักษะเมื่อเราสัมผัสนกมากขึ้น หลายท่านอาจจะได้ยินว่านกแต่ละสายนั้นก็มีขนาดและรูปร่างต่างกัน บ้างก็ว่าพวกนี้ สายพันธุ์เหล่านี้จะตัวเล็ก ตัวใหญ่ แต่เชื่อเถอะว่านกที่เก่งๆนั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีองค์ประกอบหลักที่สำคัญคล้ายกันก็คือ มีโครงสร้างที่ดี สมส่วน สุขภาพของขนนกนั้นดีมาก มีปีกที่ดี น้ำหนักดี ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ก็ถ่ายทอดไปยังทายาทลูกหลานของมันต่อไปได้เช่นกัน

ขนนกที่ดี
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก สุภาษิตโบราณของไก่และคน ก็ใช้ได้กับนกเช่นกันที่ว่า “ไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง” นกที่มีคุณภาพของขนที่ดีเวลามองแล้วสวยงามนั้นสะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพที่ดีของนกตัวนั้นๆ นกตัวไหนที่มีขนนกดีนั้น จะเงางาม มีแป้งขึ้นที่ใบปีก ดีขึ้นกว่านั้นถ้าเราสังเกตุที่ใบปีกจะมีน้ำมันเป็นลายๆให้เห็นที่ใบปีก และ ดีขึ้นกว่านั้นขึ้นไปอีก ขนที่ด้านหลัง และ ที่หัวใหล่จะซ้อนกันและพับขึ้น นั่นบ่งบอกถึงสุขภาพ คุณภาพ ขั้นสุดยอด และ บ่งบอกถึงการดูแลนกของกรงนั้นๆ

สำหรับนกพันธุ์ก็เช่นกัน นอกจากสายพันธุ์ ประวัติที่ดีของมันแล้ว นกพันธุ์ที่เราคัดไว้ทำพันธุ์นั้นก็ต้องมีคุณภาพของขนนกที่ดี ซึ่งก็เป็นพื้นฐานหลักอันหนึ่งในการคัดเลือกใช้ทำพันธุ์ ใช้ผลิตแชมเปี้ยนนกเก่งของกรง และในทางกลับกันนกที่มีคุณภาพของขนนกที่แย่ไม่ควรเก็บไว้ทำพันธุ์เพราะมันบ่งบอกถึงสุขภาพของตัวนกเอง และ คุณภาพในการใช้ทำพันธุ์นั้นไม่น่าจะดีเช่นกัน

ขนนกที่ดีก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น มันจะเงางามดั่งไหม แข็งแรง และ กันน้ำได้ดี ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ขนนกยิ่งมีแป้ง มีน้ำมันมากมันจะทำให้ขนเงางามดั่งไหม ขนนกยิ่งดียิ่งทำให้นกลอยตัวอยู่ในอากาศได้ดีกว่านกที่ขนแย่หรือที่เรามักเรียกกันว่า “ขนเค็ม” หรือ “ขนแห้ง”ซึ่งขนเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับนกที่ป่วยซะมากกว่า นกที่มีขนที่เค็มจะใช้พลังงานในการบินมากกว่าและนกจะเหนื่อยล้าเร็ว ผลการบินนั้นจะบินได้ช้ากว่านกปรกติ พวกนกขนแห้งจะขาดคุณสมบัติในการป้องกันน้ำ และ เป็นปัญหาแน่เมื่อโดนฝน

ขนนกแข่งเวลามันอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม เยี่ยมยอดนั้น ขนจะรัด ดูแน่นหนาและเงางามดั่งไหม นกก็เหมือนกับรถยนต์ที่การเปรียบเทียบในความเร็ว ความเพรียวลม การออกแบบ สรีระที่สมส่วน รูปร่างไม่ต้านลมเวลาวิ่งบนถนนหรือบนอากาศเวลาบินถ้าเป็นนก ซึ่งสำหรับรถนั้นก็เป็นการออกแบบตัวถังรถ ส่วนนกนั้นขนที่คลุมตัวและปีกเป็นเรื่องหลัก และทั้งหมดนี้ก็เป็นอะไรที่เราเรียกกันว่า “แอโรไดนามิค” หรือ “เพรียวลม”นั่นเอง

นกที่มีสุขภาพที่ดีอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มขนที่คลุมทั้งตัวและปีกจะซ้อนกันดี แน่น เรียงเรียบร้อย นิ่มนวล ที่เราเรียกกันว่า “ขนรัดตัวดี” ซึ่งตอนที่นกบินนั้นขนที่ดีเหล่านี้ก็จะให้ลมผ่านไปได้ดีและเร็วไม่ว่าจะลำตัวและปีก และ ทำให้นกลอยตัวอยู่ในอากาศได้ดี ซึ่งในทางตรงกันข้ามนกที่มีสุขภาพขนที่ไม่ดีนั้นผลจะตรงกันข้ามไม่ว่าจะการลอยตัวในอากาศ การทำให้ลมไม่ไหลลื่น บินช้า และ นกจะเหนื่อยเร็ว

สุดท้ายก็อยากจะเน้นว่าเรื่องขนนกเป็นเรื่องที่สำคัญมาก นกนั้นบินดีเร็ว หรือ ช้าขนนกเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญครับ และ มันก็ยังบ่งบอกถึงฝีมือการเลี้ยงนกของท่านว่าดีระดับไหน จากนั้นลองสัมผัสนกดูบ่อยๆว่าเรามองเห็นอะไรในตัวนกบ้าง ........ สวัสดีครับ

สรรสาระ : การสัมผัสถึงคุณภาพ และ ขนนกที่ดี

FRANCIS LOFT

บทความ ข่าวสาร