JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

สรรสาระ 16/12 : ตามล่าหาความแข็งแกร่งให้กับนกพิราบของคุณ ภาคที่ 2

2012-09-27 09:46:26 ใน สรรสาระ » 0 2592

"ตามล่าหาความแข็งแกร่งให้กับนกพิราบของท่าน ตอนที่ 2"

สองฉบับที่ผ่านมาก็ได้นำบทความที่เคยเขียนไว้ในอดีตนำมาปัดฝุ่นมาเล่าสู่กันฟัง หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ไม่มีเวลา ไม่มีสมาธิพอที่จะเขียนใหม่ได้เพราะต้องเดินทางไปต่างประเทศ 3 สัปดาห์ 3 ประเทศ ใน 1 เดือน ก็เหนื่อยเหมือนกันครับ ไปทำงานไม่ใช่ไปท่องเที่ยวก็อย่างนี้ละครับ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆที่ชอบบทความเก่า คนที่ไม่เคยอ่านมาก่อนก็เลยได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลใหม่ๆกันไป วันนี้ออกจากงานประชุมมีเวลาก็ขอลุยงานเขียนที่ค้างกันไว้

หลายสัปดาห์ก่อนได้พูดถึงเรื่อง

Strengths = Talent + improvement

ก็คือ ความแข็งแกร่งนั้นนอกจากเกิดจากพรสวรรค์แล้วเราก็สามารถเพิ่มได้จากการที่เราต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ควรทำ จุดที่อ่อนให้แกร่งขึ้น อย่างเช่น



"ปรับให้สมดุล"

บางท่านสังเกตุว่านกพันธุ์ของท่านอย่างเช่น ปีกนกที่ยังไม่ดีพอก็ต้องปรับให้สมดุลกันเวลาเข้าคู่นก ถ้านกพันธุ์ตัวนั้นเป็นตัวรัก ตัวโปรด แต่ยังสังเกตุเห็นบางอย่างที่น่าจะปรับ ก็ควรทำกัน อย่างเช่น โครงสร้างนกที่ค่อนข้างใหญ่ถ้ายังเล่นอยู่ก็ต้องเข้าคู่กับนกที่ขนาดกลางหรือเล็กหน่อยเพื่อลูกที่ออกมามีโอกาสที่จะไม่ใหญ่ไป ปัจจุบันนกตัวใหญ่มักจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันทั้งต่างประเทศและในประเทศ ช่วงอกลึกไปไหม หลังไม่แข็งพอ ท้ายอ่อนไป ผมไม่เชื่อเรื่องอายซายน์ก็ไม่ขอวิจารณ์



"พรสวรรค์"
พูดถึง "พรสวรรค์" นั้นเรารู้ได้อย่างไร เราพบได้อย่างไรถ้าเราไม่ได้ให้ "โอกาส" กับนกเลย ทั้งเข้าคู่นกเพื่อให้มีลูกมันก็มีโอกาสได้เข้าแข่งขัน หรือ เพาะนกมาแล้วไม่แข่งมัน หรือ แข่งแบบไม่เต็มที่ ไม่กี่ทีก็เลิก กลัวหาย หรือคิดไปเองว่านกตัวเองบินไม่ไกล ไม่ถึงแน่ ก็เลยไม่ได้วัด ไม่ให้มันได้แจ้งเกิดซะที ก็เป็นได้ ดังนั้น โอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญที่คนเลี้ยงนกต้องเปิดใจกว้างๆ ให้โอกาสมันได้แสดงผลงานบ้าง ให้แล้วก็ให้เต็มที่ด้วย เช่นเข้าคู่นกก็ไม่ควรเข้าครอกเดียว โชคไม่ดีได้ลูกตัวเดียว หรือ เก่งหน่อยก็ได้ครบสองตัว ซวยๆ บินบ้านหายไป 1 ตัว ซ้อมหายไปอีกตัว หรือ ป่วย หรือ อะไรก็ตามที่ทำให้มันไม่สมบูรณ์ดีพอ ก็ไม่ได้แจ้งเกิด เสียเวลาทั้งพ่อแม่ และ เลี้ยงลูกแบบไม่ได้วัดผลอีก ดีไม่ดีก็ซวยพาลคัดพ่อแม่นกทิ้งไปก็มี ก็เป็นเพราะไม่มีโอกาสนั่นเอง



ผมอยากที่จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบสักเรื่อง ตอนนี้ผมอยู่ที่กรุงจาการ์ต้า มาประชุม ทางคนจัดงานจัดให้เราพักที่ รร. Kempinski ผมเองไม่เคยพักที่นี่มาก่อน แม้จะเคยมาที่เมืองนี้หลายครั้งส่วนใหญ่ก็พักที่ Shangrila, Sherlaton.. ก็คิดว่า รร.ดีไหมหนอ รถเบนซ์ของโรงแรมมารับที่สนามบินก็รู้สึกดี พอมาเห็นตึกดูค่อนข้างธรรมดา เหมือนเก่า แต่พอก้าวเข้ามาในโรงแรม ข้างในหรู ตบแต่งสวย ยิ่งห้องพัก การต้อนรับ บริการของพนักงาน ผมยกให้ 6 ดาวเลยครับ เยี่ยมมากๆ เขาเก็บรายละเอียด สิ่งอำนวยความสะดวก หรูหรา และราคาไม่แพง ซึ่งผิดกับที่เราได้ยินชื่อตอนแรก และ ผิดกับที่เราเห็นตัวตึก รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งเราคิดว่า ทำใจได้ว่าธรรมดา แต่หาใช่ไม่ครับ 6 ดาวผมให้เลย ที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็อยากจะบอกว่า เราไปตัดสินนกจากแค่รูป แค่สัมผัส แค่ชื่อเจ้าของกรง ชื่อสายพันธุ์นั้นไม่พอนะครับ เราต้องให้โอกาส ให้การแข่งขันช่วยตัดสินนกเรา ให้คุณภาพของมันเป็นตัววัด แต่เราก็ต้องแฟร์พอนะครับ ไม่อย่างนั้นนกที่ดีๆที่มีอยู่ก็ไม่ได้เล่นถึงกันซะที ถามตัวเองก่อนว่าเราเล่นลูกมันบ้างไหม ทำไม คิดไปเอง ทั้งๆที่ไม่เคยได้ลองเลยก็มีครับ

"โลกที่เปลี่ยนไป ใครเป็นจุดอ่อน"
ย้อนกลับมาที่จุดอ่อนนั้นบางอย่างก็ต้องยอมรับว่าโลกมันเปลี่ยนไป วิธีที่เคยเลี้ยงเดิมๆนั้นอาจจะไม่ดีพอกับวันนี้ก็ได้ คนที่กลับมาเลี้ยงนกใหม่น่าจะทราบดี วิทยาศาสตร์ทางการกีฬาก็สามารถมาประยุคได้กับนกเรา การกิน การให้อาหาร การให้ยา วิตามิน และ สัดส่วนนั้นสำคัญ ส่วนเรื่องโรคที่ไม่เคยพบก็เกิดขึ้นบ่อยในปัจจุบัน ดังนั้นจุดอ่อนนั้นก็อาจจะเกิดกับการเรียนรู้ ศึกษา หาข้อมูล ซึ่งอาจจะเป็นที่ตัวเราเอง หรือ คนเลี้ยงนกเราก็ได้ที่เป็น "จุดอ่อน" ดังนั้นเปิดหู เปิดตา เปิดใจรับรู้ และ ถามผู้รู้หลายๆคน เพื่อประกอบการตัดสินใจที่เป็นบทสรุป แนวทางของเราเองซึ่งถ้าทำได้ก็เท่ากับ เราปรับจุดอ่อนในสิ่งที่เราไม่รู้ ไม่แน่ใจนี้ไปแล้วครับ

"จิตใจ"
จุดอ่อนอีกเรื่องก็เป็นที่ "จิตใจ" ตัวเราเอง และ คนเลี้ยงนกของเรานั้นต้องเข้าใจว่านกเราถ้ามันมีพื้นฐานเป็นนกไกล ดังนั้นการแข่งใกล้ๆนั้นจะไปหวังผลให้มันได้ดีเหมือนพวกนกคนอื่นที่มีพื้นฐานสายพันธุ์ใกล้นั้นก็ยาก ไอ้เรื่องแข่งเราก็ต้องส่งแข่งแต่ถ้ามันไม่ใช่ระยะที่เราหวังผลก็ต้องอดทน ทำใจ และ อย่าเขว อย่ารน นะครับ เมื่อถึงระยะที่ไกลพอ พื้นฐานนกเรา สายพันธุ์นกเรา มันก็จะพัฒนาและมาได้ครับ ผมจำคำพูดพี่โต รณชัยได้ว่า ปืนยาวกับปืนสั้นมันก็ปืนเหมือนกัน แต่หวังผลต่างกัน นกไกลกับนกใกล้ก็เช่นกัน นกไกลบินใกล้ได้ อาจจะไม่เร็วจี๋เหมือนนกใกล้ แต่ ก็กลับกรงได้สบายๆ เร็วๆนี้ผมเองก็ได้คุยกับพี่สุวรรณ แซ่ตั้ง คนเก่งคนหนึ่งของวงการนกทางไกล นักสู้มุมน้ำเงินอันดับต้นๆของเมืองไทย ผมก็ถามแกว่านกแข่งพี่เก่งทางไกลมาก ไอ้นกเหล่าพวกนี้นะมันแข่งตั้งแต่ใกล้ไหม พี่เขาให้คำตอบว่าแข่ง ระยะใกล้ๆ กลางๆนั้นก็เหมือนเอานกไปซ้อม เขาไม่มีเวลาเอานกไปซ้อมเอง ดังนั้นการแข่งนี้ก็เป็นการซ้อม เพื่อให้มันมีประสบการณ์ มีความแข็งแกร่ง คนเลี้ยงนกนั้นอย่ารน อย่าเขว เลี้ยงอย่างไร มั่นใจอย่างไรไปอย่างนั้น ไม่ควรเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา นกพอมันเข้าใจระบบของเรา มันก็จะปรับตัวมันเอง นกไกลก็คือนกไกล เรื่องจิตใจที่มั่นคงนี่สำคัญ เป็นได้ทั้ง "จุดแข็ง" และ ขณะเดียวกันก็เป็น "จุดอ่อน" ได้เช่นกัน เพราะถ้าใจไม่มั่นคงพอ ปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ใครพูดอะไรก็ตามแบบไม่ได้ตรอง นกเองก็คงปรับตัว ปรับใจ ไม่ทันกับเราแน่ หรือ บางครั้งก็กลายเป็นทะเลาะกันเองในทีมงาน ก็มี มั่นคงในวิธีการเลี้ยง ปรับเสริมความแข็งแกร่งได้แต่อย่าไปหักมากในช่วงแข่งขันนะครับ

"กรงนก ดีพอไหม"
จุดอ่อนอีกเรื่องก็เป็นเรื่องกรงนก ที่เมืองนอกนั้น การออกแบบกรงนั้นสำคัญ เรื่องที่เป็นสาระ เป็นเรื่องที่ต้องระวัง เขาละเอียดมากครับ ทิศทางการหันกรง รับแสงแดด ลม ทนและปรับให้เข้ากับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี เขาคิดกันหนักครับ เราเองก็ควรสำรวจกรงนกเราเช่นกันว่าการถ่ายเทอากาศดีพอไหม มีโอกาสรับแสงแดดดีพอไหม กันฝน กันลมโกรกมากเกินไปได้หรือไม่ ส่วนไหนที่ควรปรับก็ควรทำ กรงผมเองนั้นก็อยู่ในการดำเนินการปรับหลายจุดเช่นกัน หลักๆก็เป็นเรื่อง แดด กับ ลมครับ

"ข้อมูล รายละเอียดนก ชัดเจนดีไหม"
จุดอ่อนอีกอย่างก็คือ การเก็บข้อมูล ประวัตินก โดยเฉพาะรายละเอียดนก คนเลี้ยงนกอย่างเราก็ควรให้เวลาสำรวจ นกเรา ตัวเราเอง ทำสถิติ ทำประวัตินกให้ดี เราควรทำเพดดีกรีของนกเราให้ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นการสำรวจนกบ้านเราว่ามีหลักแหล่งดีขนาดไหน น่าเชื่อถือขนาดไหน พื้นฐานสายพันธุ์โดยละเอียด หลายคนถ้าได้ทำก็สามารถถามตัวเราเองได้เลยว่า นกเรานั้นมีพื้นฐานที่น่าเชื่อถือ อ้างอิงได้ดีขนาดไหน ในอนาคตเราจะได้มีโอกาสสร้างสายพันธุ์ของตัวคุณเองได้ไงครับ จุดอ่อนนี้ก็ปรับเป็นจุดแข็งได้ถ้าเราทำ เก็บรายละเอียด มีนกที่มีพื้นฐาน มีรายละเอียดอ้างอิงได้ เป็นพื้นฐานสร้างความมั่นใจได้มากขึ้น



ที่เขียนมาหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น สายพันธุ์ กรงนก จิตใจ การเรียนรู้ การให้โอกาส การเก็บรายละเอียด มีนกพันธุ์ที่ดี มีรายละเอียดที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่สำคัญถ้าเลี้ยงนกจริงจังก็ควรต้องใส่ใจ ให้เวลา ให้อากาส และ เรียนรู้ สำรวจสิ่งที่ยังเป็นจุดอ่อนให้ดีขึ้น แกร่งขึ้น และ เป็นจุดแข็งแกร่งได้

เร็วๆนี้ก็ได้อ่านบทความดีๆของเมืองนอกหลายเรื่อง อยากที่จะเขียนให้พวกเราได้อ่านกัน รอหน่อย เร็วๆนี้ครับ......สวัสดี

 

กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
Copyright © 2024 www.francisloft.com All right reserved.