10 นกพิราบที่แพงที่สุดในโลก (ตอนที่ 1)

2013-12-05 10:50:17 ใน นกดังของโลก »

6578 10 นกพิราบที่แพงที่สุดในโลก (ตอนที่ี1)

เดือนแห่งความสุข เทศกาลแห่งความสุข วันพ่อ วันคริสมาสต์ วันหยุดมากมาย และ วันปีใหม่ก็ใกล้มาถึง ต่างก็อยู่ในเดือนธันวาคมกัน ถ้าไม่มีเรื่องการขัดแย้งทางการเมือง น่าจะมีความสุขกันมากกว่านี้ครับ   เดือนนี้ผมก็เลยนำบทความมาลงกันให้มากกว่าที่เคยเป็น ก็ขอส่งมอบความสุขด้วยบทความกันครับ

บทความนี้ก็ขอมอบเป็นของขวัญวันพ่อให้พวกเราทุกคนครับ

เรื่องนี้ก็เขียนทิ้งไว้นานมากๆแล้วน่าจะกว่าครึ่งปีแล้วครับ ก็คงถึงเวลาที่นำมาลงกัน

นกพิราบแข่งสมัยนี้ โดยเฉพาะนกนอกนั้นก็อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีว่าราคาแพงเหลือเกิน แพงแบบเหลือเชื่อก็ว่าได้ ที่ต่างประเทศก็มีการวิจารณ์กันว่ามันแพงเวอร์เกินไป

ถ้าเราเปรียบเทียบกับสมัยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาซึ่งราคาหลักล้านนั้นมีไม่กี่ตัวและนกหลักล้านเหล่านี้ล้วนเป็นยอดนกอัจฉริยะก็ว่าได้อย่างเช่น Kleine Didi ของ Etiene De Vos, Zwart Kadett ของ Erik Limbourg หรือ ยอดนก Eurostar ของ Gunter Prange หรือ ยอดนกอย่าง Fieneke 5000 ของ Flor Vervoort นกเหล่านี้ล้วนเป็นยอดนกสมราคาเงินล้านกันทั้งนั้น

หลายท่านคงถามว่า อะไรเป็นตัวกระตุ้นให้ราคานกนั้นแพงเวอร์? เราก็คงต้องวิเคราะห์กันก่อนว่า ราคาแพงมาจากไหน กลุ่มลูกค้าที่ให้ราคาสูงนั้นคือใคร อะไรเป็นช่องทางที่ทำให้เขาเหล่านั้นเข้าถึงข่าวสารให้ลูกค้าสนใจ พิจารณาและอยากได้ไว้ครอบครอง วิธีการที่เขาใช้ซื้อขายกัน   เขาซื้อนกแพงเหล่านี้ไปทำไม?

คำตอบสำหรับเรื่องนี้ไม่ได้ยากอะไรเลยซึ่งเราเห็นได้ชัดเพราะการเปิดประเทศของเมืองจีนนั่นเอง ทำให้เศรฐกิจของจีนนั้นโตอย่างมหาศาล เกิดอภิมหาเศรษฐี และ เศรษฐีใหม่ๆเต็มไปหมด นกพิราบแข่งที่เมืองจีนไม่ใช่เรื่องใหม่ มีมานานแล้ว และ โดยธรรมชาติแล้วคนจีน คนเอเชียนั้นชอบเลี้ยงสัตว์ ชอบการเล่น การแข่งขันเป็นทุน ก็ทำให้กีฬานกพิราบแข่งกลับมาเป็นที่นิยมกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งพอเปิดประเทศใหม่ การแข่งนกก็เริ่มบูม ก็เกิดความต้องการนกพันธุ์กันมากและรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนพวกเขาพร้อมทุ่มเงินแย่งกันซื้อ แย่งกันประมูลเพื่อให้ได้นกดีๆเข้ากรง ก็เป็นอาหารอันโอชะของนักเลี้ยงนกชาวยุโรป และ แน่นอนกรงนกที่ยุโรปจำนวนมากต่างก็ถูกซื้อนกกันไปมากมาย กรงที่ยุโรปต่างก็ปรับวิธีการนำเสนอผลงานของกรงตนเอง ทำหนังสือ ทำเว็บไซต์ ออกบู๊ธที่งานแสดงนกต่างๆเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักตนเองไม่ว่าจะในงานโอลิมเปียด งานประจำชาติอย่าง DBAหรือ Tauben Markt ของเยอรมัน งานที่ช่วงหลังนักเลี้ยงนกที่ยุโรปมักจะไม่พลาดที่เมืองจีนก็มีหลายงานที่สำคัญก็มีที่ “ลังฟัง” หลายๆกรงก็มีตัวแทนเป็นคนจีนเป็นคนกลางสำหรับพวกเขา ซึ่งคนกลางเหล่านี้ก็ก่อเกิดรายได้มหาศาลเช่นกัน

ก็มีการวิจารณ์กันเหมือนกันว่านกดีๆจำนวนมากมายเข้าไปเมืองจีนก็เงียบหายไป ไม่ค่อยที่จะทราบข่าวคราวกันเท่าไรนักว่าผลงานลูกหลานมันเป็นอย่างไรบ้าง บ้างก็วิจารณ์กันว่าสาเหตุหนึ่งที่ที่ราคาสูงก็เพราะว่า ราคายิ่งสูงยิ่งทำให้คนที่ชนะประมูลนั้นหน้าใหญ่ มีชื่อดังก็ว่าได้ (ทำไงได้ มีเงินซะอย่าง ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดเนอะ มันเหมือนเศษเงินของคนบางคนครับ) หลายคนก็วิจารณ์กันว่านกดีๆเข้าไปในประเทศจีนมาก ทำไมพวกเขาไม่เพาะเสนอขายกลับไปทั่วโลกกันบ้าง ดูเหมือนมีแต่ซื้อเป็นหลัก ผมว่ามันไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขานะ เงินตรงนี้ก็ไม่ใช่สาระในการดำรงชีพเช่นกัน

นอกจากนักเลี้ยงนกชาวจีนแล้วก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ซื้อนกจำนวนมากก็คือกลุ่มนักเลี้ยงนกชาวยุโรปตะวันออกซึ่งหลังจากยุคสงครามเย็นสิ้นสุดลง หลังการล่มสลายของประเทศโซเวียตรัสเซีย ประเทศเหล่านี้ก็หันมาพัฒนาประเทศทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น ธุรกิจใหม่ๆต่างก็เกิดก็ทำให้คนก็มีรายได้ดีขึ้น ก็มีการปันเวลามาหาความสุข ความสนุก และ การเลี้ยงนกก็เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่ละปีมีนกที่เกิดในภูมิภาคนี้หลายๆล้านตัว และ ถ้าเราได้ติดตามผลงานการแข่งขันระดับโอลิมเปียดกันอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้ว่า นกที่ชนะโอลิมเปียด จำนวนมากมาจากประเทศในยุโรปตะวันออกนี้ละครับ

นอกจาก 2 กลุ่มที่ได้กล่าวมาแล้วไม่ว่าจะประเทศจีน หรือ ยุโรปตะวันออก ก็ยังมีลูกค้าดั้งเดิมที่ยังคงหานกพัฒนากรงตนเองอยู่เสมอไม่ว่าจะ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เยอรมัน อังกฤษ ฮอลแลนด์ อเมริกา และ ประเทศไทยก็เช่นกัน

โดยหลักๆแล้วพวกเขาซื้อนกไปทำไม? ส่วนใหญ่ก็นำไปเป็นนกพันธุ์ที่กรงตนเองเพื่อเพาะลูกหลานส่งเข้าแข่ง เพื่อชัยชนะ บางกรงก็ซื้อไปเพื่อทั้งเพาะแข่ง และ เพาะขายก็มีไม่น้อย

โลกสมัยนี้เป็นโลกที่เราสามารถติดต่อถึงกันได้ง่ายมาก รวดเร็ว เข้าถึงคนได้เร็ว ทำให้เราค้นหาข้อมูล ความรู้ได้หลากหลาย เทคโนโลยีนั้นยิ่งวันยิ่งดี ยิ่งสะดวก โลกออนไลน์มันติดตัวเรา การแข่งนก การสรรหานกพันธุ์นั้นก็ไม่ยากอะไรเลย มีการเสนอนกของตนเองจำนวนมากจากเว็บไซต์ในหลายๆประเทศ มีการประมูลมากมาย และ ช่องทางเหล่านี้ทำให้คนได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลของนกที่ตนเองต้องการ ซึ่งง่ายกว่าสมัยก่อนมากที่ส่วนใหญ่เป็นการประมูลเป็นหลัก หรือ ประกาศขายกันทางหนังสือนก ซึ่งค่อนข้างจำกัด และ ไม่แพร่หลายกันมากนัก
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้มีส่วนร่วมที่สำคัญที่ทำให้ลูกค้ามีแพร่หลายมากขึ้น กระจายไปทั่วโลก รวดเร็ว ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ราคาก็สูงขึ้นตาม ช่องทางการขายก็มีมากขึ้น

ก็ทำไงได้เราอยู่ในโลกของความเป็นจริงครับ ทุกอย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นก็เป็นการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคก็คือนักเลี้ยงนกจากทั่วโลก ก็อยู่ที่ว่าใครมีผลงานที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ต่อมาก็เป็นการนำเสนอที่ดี ให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย ก็กระตุ้นได้เร็ว

เราลองมาดูกันว่านกที่ราคาแพงที่สุดในโลกที่ผ่านการประมูลของ PIPA นั้น มีนกตัวไหน ของใคร และ ราคาเท่าไรกัน

10 นกพิราบแข่งที่ราคาแพงที่สุด

	ชื่อนก	กรง	Euro	Baht
1	Bolt	Leo Heremans	310,000	13,020,000
2	Safierkoppel	Leo Heremans	270,000	11,340,000
3	Dolce Vita	Pieter Veenstra	250,400	10,516,800
4	Nieuwe Olympiade	Leo Heremans	210,000	8,820,000
5	Ouders Bolt	Leo Heremans	184,000	7,728,000
6	Euro Diamond	Brockamp	170,000	7,140,000
7	Gilbert	Leo Heremans	162,000	6,804,000
8	Bluwe Prins	Pros Roosen	156,000	6,552,000
9	Eagle Eye	Erik Limbourg	132,000	5,544,000
10	Monar	Etienne Meirlaen	126,200	5,300,400
	อัตราแลกเปลี่ยน	42	บาท/ยูโร

จะเห็นได้ว่าจากนกพิราบที่ประมูลสูงสุดทั้ง 10 นั้นเป็นนกของ Leo Heremans ยอดเซียนระยะใกล้ กลาง ของเบลเยี่ยม ถึง 5 อันดับ การประมูลครั้งนั้นเป็นการประมูลในปี 2013 ที่มีราคาสูงที่สุดในโลก ซึ่งในอดีตนกที่มีราคาแพง เป็นที่ต้องการส่วนใหญ่เป็นนกที่เก่งในระยะทางไกล แต่ ปัจจุบันแนวโน้มในการหานกเข้ากรงนั้นหลากหลายมากขึ้น เพราะ นกไกลนั้นมันไม่เหมาะกับระบบการแข่งขันในหลายๆประเทศ หวังผลยาก กว่าจะโตเต็มที่ก็หลายๆขวบ นกไกลนั้นที่ยุโรปนั้นเป็นนกแก่มากกว่าหนึ่งขวบ การแข่งขันนั้นคนละแบบกันอย่างเช่น ไต้หวัน ใช้นกอายุไม่กี่เดือนก็แข่งแล้ว ก็คล้ายๆกับบ้านเราที่นิยมแข่งนกแบบ young bird ดังนั้นคนในเอเชียก็เปลี่ยนเทรนด์มาเป็นนกใกล้กลางมากขึ้น ราคานกก็พุ่งสูงตามเศรษฐีใหม่ชาวจีนกันมาก

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ก็ขอนำภาพนกทั้ง 10 ที่ประมูลสูงสุดทาง Pipa มาให้ดูกันครับ

รูปและเพดดีกรีนกที่แพงที่สุดคือ Bolt ของ Leo Heremans

Bolt เป็นนกยอดเยี่ยมอันดับที่ 1 ของ KBDB เบลเยี่ยม ระยะสั้นที่เขาเรียกกันว่า Speed ทั้งพ่อและแม่ก็เก่งในการบินระยะสั้น จุด Quievrain ก็น่าจะอยู่ประมาณ 100 กว่า กิโลเมตร ทำไมเขาประมูลนกสั้นกันไปทำไมก็อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้นและบทความที่เคยเขียนไว้หลายบทด้วยกันก็ลองหาอ่านกันนะครับ

Bolt ถ้าดูเพดดีกรีแล้วค่อนข้างห่างชั้นจากนกดังของ Leo Heremans โดยเฉพาะนกดังในยุคที่เป็น Heremans - Ceusters มาก เพราะ เป็นเหลน โหลน Olympiade03, เป็นหลาน 444 (พ่อของยอดนก Jan), Rossi, Spinneke ก็เป็นที่ผลงานทั้งการผสมพันธุ์และการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม เจ้า Bolt มันเลยได้เกิดเป็นนกดังครับ

10 นกพิราบที่แพงที่สุดในโลก (ตอนที่ 1)

FRANCIS LOFT

บทความ ข่าวสาร