พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจปวงชนชาวไทยตลอดไป





กว่าจะทำใจและมีแรงพอที่จะพิมพ์บทความนี้ ใช้เวลามากพอควร
น้ำตาที่ปวงชนชาวไทยต่างไหลพรั่งพรูอาบใบหน้าเมื่อทราบข่าว "ในหลวง" ของเราเสด็จสู่สวรรคาลัย
เป็นน้ำตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความรักที่มีต่อ "พ่อหลวง" เป็นน้ำตาที่ร่ำไห้เพราะจากนี้ไป
เราก็จะไม่มี "พ่อหลวง" ของเราอีกแล้ว แต่ เชื่อมั่นว่า "พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจปวงชนชาวไทยตลอดไป"
ความทรงจำที่ไม่มีวันลืมของผม
ผมเองตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนอัสสัมชัญ ตอนประถมปีที่1 อายุ 7 ขวบ ทางโรงเรียนได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างสูงที่พระองค์ท่านได้เสด็จมาเปิดอาคารเรียน เปิดงานวิทยาศาสตร์ ของโรงเรียนเรา ผมเองตอนนั้นยังเป็นเด็กมากๆ ไม่รู้อะไรเลย
จำได้ว่าเดินแทรกเข้าไปในกลุ่มที่พระองค์ท่านเสด็จ ผมเองก็มุดไปถึงด้านหน้าสุด ได้ไปยืนอยู่ข้างพระองค์ท่าน เพราะความอยากรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันหรือ ซึ่งตอนนั้นบอกตามตรงว่าไม่รู้ว่าใคร มีความสำคัญอย่างไร
พระองค์ท่านได้แตะศรีษะผม และ ถ้าผมจำไม่ผิดพระองค์ท่านได้จูงมือผมด้วย
พระองค์ได้ทรงถามรุ่นพี่น่าจะม.ศ.5 ว่า "จริงไหมที่กุ้งถ่ายของเสียของตัวมันเองที่หัว"
ความทรงจำในวันนั้น จากวันนั้น ผมจดจำไว้ตลอด ความซนทำให้เราได้มีวันหนึ่งที่ได้ยืนข้างพระองค์ท่าน ได้เดินชมงานไปกับพระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงเป็นกันเองกับ อาจารย์ และ นักเรียนทุกคน
ตอนที่ผมอยู่ต่างประเทศ 5 ปี บทสวดหนึ่งที่ผมมักขอพระอยู่เสมอคือ ขอให้คุณแม่ผมมีสุขภาพที่ดี และ ขอให้ "ในหลวง" ทรงมีพระพลานามัยที่ดี หายจากอาการประชวร อยู่เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
1 สัปดาห์ก่อนที่พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคลัย ผมได้มีโอกาสนำ CEO ผู้บริหารสูงสุดจากสำนักงานใหญ่ที่เยอรมัน เข้าลงนามถวายพระพรที่ศาลาสหทัยฯ และ 1 วันก่อนที่พระองค์ท่านเสด็จสู่สวรรคลัย ผมและลูกน้องก็ได้ไปที่โรงพยาบาลศิริราช ไปร่วมสวดขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร และ ที่ทำงานตอนเย็นเราก็ร่วมกันสวดเช่นกัน
พวกเรารักพ่อหลวง พวกเรารักพระองค์ท่านครับ
Francis Loft