JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

The Best of Ad Schaerlaeckens Vol. 1 ตอนที่ 5 The English Patient

2012-10-04 10:51:18 ใน บทความจากหนังสือ » 0 2610 ตอนที่ 5 The English Patient


 
ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้แปลตอนที่ 5 ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันก่อนหน้านี้  ซึ่งอันที่จริง ผมก็ได้อ่านจบเล่มไปหลายเดือนแล้ว ก็ตอนที่ไปเที่ยวยุโรปกับครอบครัวช่วงสงกรานต์ ก็เลยได้อ่านทั้งบนเครื่องบิน รถไฟ โรงแรม จนจบ     ชื่อของ ตอนที่ 5 นี้ก็เป็นการเล่นคำ โดยใช้ชื่อหนังดังเรื่อง The English Patient ซึ่งเป็นหนังคลาสสิคเรื่องหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ เป็นหนังออกแนวดรามา ได้ออสการ์กันไปหลายตัว   นายAD เรา ก็ช่าวเปรียบเปรย  ก็เป็นเรื่องที่นักเลี้ยงนกชาวอังกฤษข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาเยี่ยมเขา  เขาก็ต้อนรับ เขาก็ได้นำนกให้หมอนี่ดู  นายADเห็นเขาจับนก เหมือนกับทรมานนกเหลือเกิน จับไม่ค่อยจะเป็น และ ไม่นุ่มนวลพอ ก็พอเดาได้ว่าไม่น่าจะเป็นนักเลี้ยงนกที่ดีนัก   ส่วนตัวเขาแล้วคนเลี้ยงนกที่ดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งที่สำคัญก็สามารถตัดสินดูได้จากการที่เขาเหล่านั้นจับนกดู   นกตัวแรกที่ADจับให้ดูเป็นนกที่เขาซื้อมาเพื่อทำพันธุ์แต่ลองเล่นดูแล้วใช้ไม่ได้  ลูกก็บินไม่ได้เรื่อง   แต่พอยื่นให้คนอังกฤษนายนี้กลับทำตัวเป็นเซียนบอกว่า “ไอ้นกตัวนี้เป็นยอดนก เป็นนกแบบแท้ๆนายADเลย  นกอย่างนี้แหละที่เขาฝันหา และต้องการ” ก็ทำให้นายAD ถามตัวเองว่า “ไอ้นกที่เขาซื้อมาไม่ได้เรื่องเลยนี่นะเป็นนกสุดยอด  และ เป็นนกแบบของนาย AD เลยเหรอ?”  สรุปว่าถ้าขายนกดีๆให้กับหมอนี่เสียของแน่.....  ก็เป็นแง่คิดดีๆ สำหรับเรา อย่าวิจารณ์ถ้าไม่รู้จริง อาจหน้าแตกได้ ๕๕๕๕

ในที่สุด Ad ก็ไม่ได้ขายนกสักตัวให้กับหมอนี่  การขายนกที่ไม่ดีให้กับคนอื่นแม้จะบาทเดียวก็ไม่ใช่สไตล์ของเขา  ก็เลยบอกกับคนที่มาเยี่ยมว่า “ผมไม่มีนกที่จะขายให้คุณครับ”  ก็เป็นอะไรที่บอกถึงความบริสุทธ์ใจ ไม่หลอกขาย  นกไม่ดีก็ไม่ขายให้  เจ้าหมอนี่ก็เลยบ่นว่า “ไอมาตั้งไกลเพื่อได้ยินคำนี้เหรอ???”  ก็เลยโดนนายAdสวนกลับว่า “นกของผมไม่เคยโฆษณาว่าจะขาย  ผมก็ไม่ได้ชวนคุณมา  คุณเองอยากมาเยี่ยม ผมก็ต้อนรับแล้ว”
      
 2ปีให้หลัง คนอังกฤษนายนี้ก็กลับมาอีก ครั้งนี้มาเพื่อขอปรึกษา สักพักก็พอจะชัดเจนขึ้นก็เมื่อหมอนี่เอาทั้งแคตตาล็อก และ เพ็ดดีกรีมากองบนโต๊ะเป็นปึกมากจากหลายๆ กรง  และ ถามว่าผมคุ้นเคยกับนกเหล่านี้ที่อยู่ในเพ็ดดีกรีหรือเปล่า? แน่นอนจำได้ เพราะ นกที่อยู่ในนั้นมันก็มีเชื้อสายนกของนายAD เขาก็เลยพูดกับนายอังกฤษว่า “คุณเริ่มนำนกผมมาเล่นแล้วหรือ? แต่นกที่โชว์อยู่ในเพดดีกรีอีกจำนวนมากนี้ถ้าถามความเห็นผมตรงๆ ก็ต้องเสียใจที่จะต้องให้ความเห็นของผมตรงๆ นกพวกนี้ไม่ได้เรื่อง.... เท่านี้หละนายอังกฤษก็ต้องช็อคแล้วบอกว่า “นกพวกนี้ไร้ค่าเหรอ?” ADก็ตอบว่า “แน่นอน”  “โอ้...พระเจ้า คุนแน่ใจได้ไง คุณ  AD”

“ผมรู้จักแชมเปี้ยนจำนวนมาก รวมถึงนกของเขา  หลายๆคนมีนกพันธุ์ตั้ง 50 คู่ แต่ผมไม่เคยเห็นใครมียอดนกแข่งเกิน 10 ตัว ....คิดง่ายๆ ถ้าพวกแชมเปี้ยนเพาะนกแข่งเองปีละ 75 ตัว 4 ปีก็จะมี 300 ตัว ถ้ามันง่ายขนาดนั้นนกพวกนี้ก็เป็นยอดนกกันไปหมดนะสิ....  พวกคุณต่างก็ต้องการนกแชมปเปี้ยน แล้วคุณไม่คิดหรือว่าคนอื่นเขาไม่ต้องการ?  แต่ละประเทศมีแชมเปี้ยน และ ยอดนกมากมายถ้าทุกคนคิดแบบนี้ เรามีแชมป์ และ ยอดนกเต็มล้นโลกไปนานแล้ว....    จากเพ็ดดีกรีกองเต็มโต๊ะนี่ “เอ้า...จะบอกให้ว่าคนอื่นเขาทำกันอย่างไร? พวกเขาซื้อลูกนกจากแชมเปี้ยน 10 ตัว  ถ้าโชคดีจริงๆ ได้นกที่ดีแค่ 2 ตัวก็โชคดีมากๆ แล้ว ที่เหลือ ที่พวกเขาคิดว่านกไม่ดี ไม่ควรค่าที่จะเก็บ  ก็หาทางขายให้กับคนต่างชาติเพื่อคุ้มกับเงินที่พวกเขาได้ลงทุนไป” และ นกที่ใช้ไม่ได้เหล่านี้ละ ก็คือนกที่นายAD ชี้ไปที่เพดดีกรีที่กองอยู่บนโต๊ะของเขา.....

นายอังกฤษยังก็ร้องว่า “แต่ว่านกพวกนี้มันมาจากนกที่ดีๆทั้งนั้นนะ”  นายADก็สวนทันทีว่า “แล้วไง...คุณว่านกตัวมันต้องดีเพราะว่าพ่อแม่มันดีงั้นเหรอ? แล้วคุณได้นกพวกนี้มาจากไหนละ? ” นายอังกฤษตอบแบบมั่นใจว่า “มาจากอินเตอร์เนท....พวกเขาเขียนว่านกพวกนี้ และ ตัวอื่นๆ พวกนี้เป็น Pure Gold ทองเนื้อแท้ และ ผมเองก็ต้องการนกที่ดีๆแบบนี้”  นายAD ก็เลยสวนกลับว่า “คุณรู้อะไรไหม? ไอ้พวกโฆษณาชวนเชื่อขายนกรู้ดีว่าเขาจะต้องเขียนยังไงเพื่อให้ผู้ซื้ออย่างคุณหลงไหลในเวทย์มนต์การเขียนของเขา....   คุณอาจจะมีโอกาสที่ดีในการออกเดทกับนางงามโลกมากกว่า ที่จะได้ยอดนกแก่ๆจากกรงแขมปเปี้ยนแต่มาจากคนอื่นๆ (ถ้ามันดีจริงพวกเขาจะขายออกมาให้คุณเหรอ? ทำไมต้องซื้อผ่านมาจากคนอื่น ทำไม่ซื้อจากเจ้าโดยตรง ให้เขาซื้อมาลองเล่นก่อนตัวไหนดีก็เก็บ  ไม่ดีก็มาขายให้พวกคุณ!!!)  ไอ้พวกนายหน้าขายนกเขารู้ดีว่าจะโกหกอย่างๆไรให้เหมือนจริง  ยิ่งบนอินเตอร์เนท ละตัวดี”

เจ้าหนุ่มอังกฤษก็เลยถามนาย AD ว่า “แล้วเจ้า Mattens และ Sissiของคุณละ พวกมันเป็นนกพันธุ์ที่ดีหรือเปล่า?  “ดีมาก... พวกมันได้ให้ลูกที่เป็นยอดนกให้กับผมถึง 5 ตัว และ นกคู่ใดที่ให้ลูกเป็นยอดนกแข่งถึง 5 ตัวนั้นหาได้ยากมาก”  (Mattens และ Sissi เป็นยอดนกของนาย AD)




  .....คนบางคนไม่สามารถที่จะหยุดซื้อ “นกกระดาษ” (นกที่คัดสรรโดยดูที่เพดดีกรีเป็นหลัก) วันหนึ่งพวกเขาก็จะซึ้งในประสบการณ์แบบนี้ซึ่งอาจทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนถูกโกง โกรธ และ รู้สึกไม่มั่นใจต่อไป... บางครั้งการวิจารณ์ตรงๆแบบนี้ก็สะเทือนใจเหมือนกัน   ไอ้พวกคนขายนกแบบนี้ก็เหมือนนักการเมือง สัญญิง สัญญา  สร้างฝันมั่วไปหมด... ปัญหาของเจ้าหนุ่มอังกฤษที่นาย AD อยากจะสอนก็คือ ทำไมอยากได้นกของใคร ไม่ตรงไปหาคนนั้นละ  ทำไมไปซื้อจากคนอื่นซึ่งซื้อไปแล้ว อาจจะเล่นไม่ดี หรือ คัดนกที่ดีที่สุดเก็บไว้และขายนกที่ไม่ดี ไม่เอาออกเสีย.....  การซื้อนกนั้น  ควรที่จะซื้อนก Late bird เพราะนกเหล่านี้ไม่ได้เพาะมาเพื่อแข่ง  ถ้าซื้อนกที่เขาเพาะก่อนหน้านี้เป็นลูกนกที่ใช้แข่งละก็ ไม่ได้ของของดีแน่ เพราะของดีพวกเขาจะเก็บไว้แข่ง........

นาย AD เล่าว่า มีครั้งหนึ่งที่พ่อค้าคนกลางเขาติดต่ออยากได้นกของKlak เพื่อลูกค้าชาว Taiwan แต่ Klak ไม่มีให้  เจ้าคนนี้ก็ต่อพ้อ Klak ว่า “ผมนะส่งนกของคุณออกมากกว่าตัวคุณเสียอีก”  Klakก็เลยสวนให้ว่า “ผมเชื่อคุณ แต่พวกมันเป็นนกที่ไม่ดีที่คนอื่นเขาต้องการกำจัดออกจากกรง คุณนะช่างไม่สนใจ เอาใจใส่ลูกค้าของคุณเลย คุณมันพวกนักล่าคอมมิชชั่น” 






Klakว่าเข้าให้อย่างแรง และ ยังเปิดหนังสือนกโชว์ให้ดูซึ่งเขียนว่า “ต้องการนกของKlak เพื่อลูกค้าชาวต่างชาติ นกต้องมีเพดดีกรีของแท้  ไอ้คนเหล่านี้นะทำลายชื่อเสียงของผม และ ตอนนี้ผมขอให้คุณออกไปจากบ้านของผม และ อย่ากลับมาอีก”  เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ หลายๆ ปีก่อน นกของKlak โด่งดังมาก จนพวกพ่อค้าคนกลางโฆษณา หานกKlak จะมีคุณภาพอะไรก็เอาหมด ส่งไปขาย  จะดีไม่ดีไม่รู้  ขอให้ขายได้เป็นใช้ได้  นั่นละที่Klakโกรธที่พวกนี้ไม่มีจรรยาบรรณ หรือ สามัญสำนึกเลย  แทนที่จะหานกดีจริงๆ ให้ลูกค้า ซึ่งพวกที่
ต้องการกำจัดนกที่ไม่ดีก็ขายได้  ทำให้ลูกค้าที่ซื้อไปเล่นไม่ดี หรือ พอเห็นนกก็หมดอารมณ์ บ้างก็พ้อว่า. “นี่เหรอ นกKlak ทำไมแม่งช่างโหลยโท่ยอย่างนี้วะ”   ใครเสีย   Klak นะเสีย  คนซื้อดูแต่เพดดีกรีว่าของใคร...  (ไม่ใช่ว่าพอเป็นนกของ Klak แล้วจะดีทุกตัว แม้แต่ตัว Klak เองก็รู้ดีถึงข้อนี้  และ อยากที่จะให้คนซื้อทุกคนรู้เช่นกัน....)

นาย  AD ก็ชี้ไปที่เพดดีกรี  “ปี2001...... ปีนี้ 2005 คุณเพิ่งจะได้นกมา  ก็ลองคิดดูง่ายๆว่าพวกเขาเล่นมา 4 ปี และ ไม่ประสบความสำเร็จก็โละขายออกมาให้คุณ.....   เจ้าหนุ่มอังกฤษก็อุทานปนสบถตามสไตล์ฝรั่งว่า “HOLY SHIT” และ ก็เปลี่ยนเรื่องคุยโดยถามว่า “จริงหรือเปล่าที่ Gaby Vandenabeele แข่งนกด้วยพวกสติคเฮลเบาท์แท้ๆ”  Ad ก็เลยสวนกลับว่า “มันจริงหรือเปล่าที่ประธานาธิบดีบุช มีอะไรกับโป๊บ”( ก็เป็นการเปรียบเทียบแบบค่อนข้างแรง  สรุปก็คือมันไม่จริงหรอก  ไอ้พันธุ์แท้ๆมันเป็นไง  สติคเฮลเบาท์ตายไปนานครึ่งศตวรรษนานพอจะมีใครมีแท้ๆอีกเหรอ   แท้แล้วมันการันตีว่ามันจะเก่งเหรอ?)  นายอังกฤษก็เลยถามว่าแล้วหลุยส์ แวนลูนละเคยได้ยินและรู้จักไหม?  Ad ก็เลยบอกว่า เขาอยู่ห่างจากนี้แค่ 5 นาที  เจ้าอังกฤษก็เลยได้ทีคุยว่าเขามีนกของแวนลูนเป็นพวกลูกของ King, Speedy, Incredible, Wonder girl  ว่าแล้วคำตอบของ Ad ก็ทำให้นายอังกฤษเราอ้าปากค้างได้เพราะ Ad บอกเขาว่า “ เขารู้จักแวนลูนดี และ นกแถบจะทั้งหมด  แวนลูนพูดอังกฤษไม่ได้เลย  และ  แวนลูนไม่มีวันที่จะตั้งชื่อนกของเขาซะสุดหรูขนาดนี้  แวนลูนตั้งชื่อนกของเขาแสนง่าย เขาตั้งชื่ออย่างเก่งก็ ไอ้กระ  ไอ้เทาปีกขาว   ไอ้ที่คุณเห็นในแคตตาล็อกนะไม่ใช่แล้วละ”   ว่าแล้วนายอังกฤษเราก็อุทานเหมือนเดิมคือ “Holy Shit !!!”  (กูโดนหลอกอีกแล้วเหรอ)

หนึ่งปีให้หลัง .... วันหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซึ่งปรกติAdจะไม่ค่อยได้รับ  ภรรยาเขาจะรับและส่วนใหญ่เมื่อใครถามหาAd เมียเขาก็มักจะบอกว่าไม่อยู่ เพราะวันๆมีแต่โทรมาถาม มาคุยจน แถบบ้าได้ในบางวัน .... วันนี้เมียเขาไม่อยู่ก็เลยรับแทน   คนที่โทรก็คือนายอังกฤษคนเดิม เขาขอบคุณที่Adให้คำแนะนำดี ๆ มีความรู้ ตาสว่าง แต่พระเจ้า เหลือเชื่อว่าเขาก็ยังมีคำถามที่ดูเหมือนว่าหมอนี่ไม่ได้พัฒนาตามที่คิดไว้ เขาถามAdว่า “Ad คุณมีความเห็นอย่างไร ถ้าผมจะเข้าคู่นกโดยนำนก Hofkens แท้ๆ กับ Weggeแท้ๆ มาผ่าเหล่าเข้าด้วยกัน”   Ad แทบจะไม่เชื่อกับหู ว่า Hofkens แท้ๆ กับ Weggeแท้ๆ ก็ เจ้า Hofkens คนทั้งโลกต่างก็รู้ดีว่าไม่มีนกพันธุ์หลักของตนเอง  เขาซื้อทั่วๆไป และ สำหรับ Wegge ซึ่งตายไปร้อยกว่าปีแล้ว ยังมีนกแท้ๆ ของเขาหลงเหลืออีกเหรอ  ว่า

แล้วนาย Ad  เราก็ยืมคำอุทานของนายอังกฤษมาใช้ว่า  “HOLY HOLY SHIT”  ว่าแล้วก็เอาเหล้าสก๊อตวิสกี้กรอกปาก  วันที่แสนดีก็หมดไปอีกวัน.... (ผมเองก็เห็นโฆษณาแบบนี้อยู่บ่อยๆเหมือนกันถึงนกพันธุ์เก่าแท้ๆ  หลายๆคนคิดว่าจะเรียนลัด และ เก๋า หรือ เจ๋งกว่า คิดว่าถ้ามีนกพวกคลาสสิคเหล่านี้อยู่ในกรง และ ส่งแข่ง   ผมเคยคิดว่ามันโฆษณาชวนเชื่อซะมากกว่า  และ นกพวกนี้มันยังพัฒนาอยู่รอดพอที่จะคว้าแชมป์ได้อย่างมั่นคงอย่างต่อเนื่องเหรอ?)

บทที่ 5 ก็จบลง ก็คิดว่าจะมีแง่คิดอะไรบางอย่างโดนใจเราได้บ้าง.....
สวัสดี
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
Copyright © 2024 www.francisloft.com All right reserved.