The Best of Ad Schaerlaeckens Vol. 1 ตอนที่ 8 Road is not taken




ถนนที่ไม่ได้ถูกเลือกที่จะเดิน บางครั้งมันอาจจะมีอะไรใหม่ๆ ดีๆ ก็ได้ ...... บทนี้นาย Ad ก็ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการแข่งนกของเขาโดยเปลี่ยนจากสูตรเดิมที่เคยแข่งแต่ตัวผู้มาลองแข่งเพิ่มด้วยนกตัวเมียบ้าง เขาเริ่มเปลี่ยนวิธีการเมื่อปี 2005 ที่ผ่านมาก็ไม่นานนัก ตอนเริ่มเขียนบทนี้เขาเดินอยู่ในป่า เดินไปก็ไปเจอทางแยกก็คิดว่าจะไปทางไหนดี ทางเดิมที่เคยไปหรือลองไปทางที่ไม่เคยไปดี ท้ายสุดก็ไปทางที่ไม่เคยไป ก็ได้คำตอบกับตัวเองว่า “มันแตกต่างกัน” ก็มีอะไรใหม่ๆท้าทายตัวเอง มีอะไรให้คิด ก็วนกลับมาถึงวิธีการเลี้ยงนกของเขาที่เคยแข่งแต่ตัวผู้ ความสำเร็จที่เกิดก็เยอะมากๆ แต่ปัจจุบันหลายคนเริ่มแข่งนกตัวเมีย และ ก็ชนะอันดับดีๆมากเสียด้วย เขาควรจะทดลองเปลี่ยนบ้างดีไหมหนอ? เพราะคนอย่างนายADนั้น ปรกติจะเลือกทำอะไรที่ตนเองคิดว่า ง่ายและสบายสำหรับตนเองที่สุด
Reasons
มันก็มีเหตุผลที่ดีที่สนับสนุนให้ลองคิดดู เขาก็ให้เหตุผลว่า
• มันก็ดีนะที่นกครึ่งหนึ่งที่เป็นตัวเมียเดิมเก็บไว้ล่อตัวผู้ก็ได้มีโอกาสแข่งแสดงฝีปีกได้
• ไม่ต้องเหนื่อยกับการจับนกตัวเมียไปหาตัวผู้ตอนล่อก่อนและกลับจากแข่ง เหนี่อยมาก
• เป็นการท้าทายตนเอง และ ถ้าดีก็จะทิ้งคู่แข่งไปอีกก้าวหนึ่ง เพราะคนเลี้ยงจำนวนมากยังคงปักหลักกับวิธีแข่งเดิมๆด้วยนกตัวผู้พอเริ่มแข่งด้วยระบบ Double widowhood เขาไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนั้นเลย เป็นเพราะผลงานที่ออกมาดีมากๆ และ เลี้ยงข้าวก็น้อยลง นกน้อยลง ออกซิเจนในกรงเพิ่มมากขึ้น ขนนกที่ปลิวตกไปตามพื้นทั่วไปก็น้อยลงตอนฤดูถ่ายขน ขี้นกก็น้อยลง มีเวลาเป็นของตนเองมากขึ้น การเขียนตอนนี้ก็มีแง่คิดที่ดี การเปลี่ยนแปลงนั้นเราคิดให้ดีก่อนว่า เพื่ออะไร? ต้องการอะไร? หวังผลอะไร? และ ก็คิดถึงผลดี ผลเสียของมัน กับ ตัวเราเอง ว่าจะ + หรือ - กันแน่ หลายคนก็จะบอกว่าแน่นอนคนเราถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องดีเยอะๆ จริงครับ คิดได้ และ จะทำอย่างไรละ เข้าใจกับมันดีหรือยัง วางแผนอะไรไว้บ้าง และ ความพร้อมต่างๆ พร้อมหรือยัง รับได้ขนาดไหนกับผลของมันถ้าไม่ได้อย่างที่หวังไว้ เสี่ยงได้ขนาดไหน ก็เป็นเง่คิดฝากกันก่อนที่จะถึงตอนต่อไปของบทนี้

Club
นายADเล่าว่าเขาไม่เคยลืม การแข่งขันครั้งแรกปี 2005 เลย ซึ่งเขาได้เริ่มใช้นกตัวเมียแข่ง ซึ่งเมื่อวันแข่งเจ้าหน้าที่ที่จับนกขึ้นรถยังถามเขาว่า นี่นกตัวผู้หรือ? บางคนก็ล้อเล่นว่านกของเขานั้นตัวเล็กกว่าขนาดนกโดยทั่วไป จึงมุดออกจากซี่กรงของตระกร้า หรือ กรงแข่งได้ และตัวต่อไปที่ส่งให้คนจับนกก็เป็นตัวเมียอีก หมอนั้นก็เลยถามว่า “นายกำลังจำทำอะไรหรือ?” ผมแข่งนกตัวเมียครับ เป็นคำตอบที่นายADให้กับหมอนั่น ซึ่งแน่นอนเขากระจายข่าวไปทั่ว และ หลายคนก็ดีใจเพราะพวกเขาจะได้ชนะง่ายขึ้น (เป็นเพราะพวกเขาฝังใจกับนกตัวผู้ และ ดูถูกนกตัวเมีย) แน่นอนการเปลี่ยนแปลงมันก็เหมือนเล่นการพนันอะไรซะอย่างซึ่งผลที่ออกมา “ไม่นรก ก็ สวรรค์” นายADขอบคุณพระจ้าที่ผลออกมาเป็น สวรรค์
Peter
ปีเตอร์เป็นคนสวนที่มาทำงานบ้านของนายAD เขาเป็นนักเลี้ยงนกเก่าที่เลิกเลี้ยงไป พอเขาทำสวนเขาก็สังเกตุเห็นนกนายADซึ่งเป็นนกตัวเมียบิน 2-3 ชั่วโมง เขาก็สงสัย และ ถามเขาว่า นกพวกนี้แข่งหรือ ถ้าแข่งเขามาเฝ้าได้หรือไม่? คำตอบที่ได้ OKแถมโดนเหน็บว่า “มาเฝ้านะหัวใจแข็งแรงดีพอ?” พอวันแข่งแดดแรง ทวนลม ซึ่งคนเลี้ยงนกบ่นกันอุบเลย พอช่วงบ่ายปีเตอร์ร้องหาแม่เลยครับเพราะนกตัวเมียของนายADมาทิ้งลงกรงไม่ขาดสายเหมือนจะพุ่งชนกรงให้ได้ ผลการแข่งขันวันนั้นสุดยอด และ ทำให้ปีเตอร์ต้องกลับบ้านไปสร้างกรงเลี้ยงใหม่ และ เป็นสมาชิกของคลับอีกครั้งด้วยเหตุฉะนี้ละครับ นายAD บอกว่าเขาไม่เคยเสียใจเลยที่เปลี่ยนมาเลี้ยงระบบ Double Widowhood ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเบลเยี่ยมในตอนนั้นกลัวการเปลี่ยนแปลงกันนักหนา
มันก็เหมือนกับเรามองหญิง ใหม่ๆก็สวยไปหมด นานๆเข้าก็เบื่อ ทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ สักวันก็เบื่อและหาอะไรที่มันใหม่และท้าทายเรา (นายADเขียนเปรียบเปรยถึงนะครับ เดี๋ยวคุณเธอใกล้ตัวท่านที่อ่านอยู่จะเข้าใจคนเลี้ยงนกอย่างเราผิดไป )
ก็จบบทที่ 8 หนทางที่เลือกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นทางเดิมเสมอ บทที่ 9 ก็จะเป็นเรื่อง Some do nots……..บางสิ่ง บางอย่างที่ไม่ควรทำ ก็ติดตามกันดูนะครับว่าอะไรควร ไม่ควร.......
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ