viratsopinpornraksa@gmail.com
Tel. 081-731-7625เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสุขภาพของนกพิราบแข่ง? ตอนที่ 2 ตอนจบ
2012-12-28 16:41:49 ใน สุขภาพนกและยา » 
0 
5433 สวัสดีครับการเดินทางของเรื่องนี้ก็มาถึงตอนที่ 2 เป็นตอนจบ ก็มีเรื่องที่เราควรคิด ตระหนักให้ดีถึงการให้ยา การดูแลรักษานก เป็นเรื่องที่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายนะครับ
เว็บเรามาถึงจุดที่มีผู้เข้าชมเว็บเกิน 41000 ครั้งแล้วครับในระยะเวลา 3 เดือนพอดิบพอดี สำหรับผม ผมดีใจมากๆครับ มากเกินกว่าที่คิดไว้มาก ทำให้มีกำลังใจในการคิด การเขียนต่อไปครับ
หลายท่านคงแปลกใจว่าหลายวันนี้ผมเขียนทั้ง 2 เว็บมากกว่าปรกติ ครับช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวๆ และ ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในประเทศ มีเวลาในบางช่วงก็อ่าน และ เขียนได้มากขึ้นครับ
4) ช่วงผลัดขน
ระยะนี้มีความสำคัญมากๆ ก็เพื่อให้การถ่ายขนของนกนั้นป็นไปด้วยดี และ มีการพัฒนาภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งของนกควบคู่กันไป ซึ่งเราจะต้องไม่ให้นกนั้นอยู่ในภาวะที่เครียด หลีกเลี่ยงการใช้ยา กำจัดพวกพาราสิตให้สิ้น และ ให้อาหารที่ดีหลากหลาย
เพราะการถ่ายขนนั้นใช้เวลาต่อเนื่องหลายเดือนกว่าจะเสร็จ
ขนนกนั้นจะแย่ถ้าสุขภาพของนกนั้นไม่ดี เราสังเกตุได้ว่านกที่อยู่ในระหว่างถ่ายขนนั้นถ้าไม่สบาย มีปัญหา หรือ ให้ยาที่ไม่เหมาะสม ร่องรอยของมันจะปรากฎที่ขนนกโดยเฉพาะเส้นหรือเล้งให้เห็นหงิกๆ มีสีแปลกๆ ดังนั้นเราควรที่จะระวังให้มากในช่วงเวลานี้โดยเฉพาะพวกยาปฏิชีวนะ ยาถ่ายพยาธิ เราควรตรวจสอบสภาพร่างกายของนกสม่ำเสมอ เพราะขนนกที่ผลัดแล้วมันจะอยู่กับนกตลอดปี ขนนกไม่ดีก็น่าจะมีผลถึงผลการแข่งขันได้5) ช่วงก่อนแข่ง
ความสำคัญของช่วงนี้เป็นเพราะเป็นระยะที่เราต้องเตรียมความพร้อมของนกให้พร้อมก่อนแข่ง เตรียมนกให้มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่แข็งแกร่ง ตรวจสอบดูว่านกมีปัญหา ติดโรคหรือไม่ ถ้าเป็นถึงให้ยารักษา ที่ต่างประเทศเขาจะดีกว่าเราก็ตรงที่เขามีหมอนกพิราบสำหรับตรวจสุขภาพ ให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับคนเลี้ยงนก ดังนั้นเราควรระวังการให้ยาให้มาก
ผมสังเกตุเห็นนักเลี้ยงนกจำนวนมากนั้นยังให้ยังให้ยาไม่ถูกต้อง หลายๆคนมองผลของการแข่งขันเป็นหลักเลยเป็นห่วง เป็นกังวล คิดไปเอง ฟังเขาเล่า ก็เลยให้ยาสารพัดกับนกซึ่งถ้านกแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดีทางธรรมชาติมันก็ไม่ป่วยง่ายๆ ยาที่ให้นั้นก็ทำให้นกต้องกำจัดออกจากร่างกายซึ่งขบวนการกำจัดนั้นมันไม่ใช่กดปุ่มก็ออกไปได้ มันบั่นทอนความสมบูรณ์ของนกโดยใช่เหตุ
6) ช่วงแข่งขัน
เป็นช่วงที่เราเรียกได้ว่า ไคลแมกซ์ เรามาถึงจุดที่เราทำทุกอย่างก็เพื่อ “ชัยชนะ” ซึ่งการรักษาฟอร์มของนกให้บินได้ดีได้ตลอดนั้นมาจากการเลี้ยงการดูแลเอาใจใส่ การบริหารที่ดี ให้นกมีสุขภาพที่ดี ช่วงนี้แหละเป็นช่วงที่น่าสนใจ เป็นช่วงที่คนเลี้ยงนกมักทำอะไรผิด มีการให้ยาสารพัดเพื่อรักษาสภาพนกให้ดี ซึ่งแท้จริงแล้วนกที่ดีมีผลการแข่งขันที่ดีต้องมีสุขภาพที่ดีเลิศ นกที่ชนะนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นนกที่ฟิตเท่านั้นแต่นกต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย
เราต้องแยกแยะให้ถูกนะว่าเรื่องที่เขียนนี้ไม่ใช่ห้ามใช้ยา แต่อยากจะให้ตระหนักถึงการใช้ยา ให้ความสำคัญกับภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติเป็นสาระ ถ้าภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติของมันนั้นไม่เพียงพอ ไม่สามารถที่จะเบียดกับการแข่งขันที่มาก อย่าลืมว่าในหนึ่งอาทิตย์นกบินเท่าไร ซ้อมอาทิตย์ละ 2-3ครั้ง และ แข่งอีก ดังนั้นเมื่อแข่งไปได้หลายสัปดาห์ นกหลายๆตัวก็อยู่ในภาวะที่เรียกได้ว่า “เครียด” ได้ ฟอร์มตกได้ นั่นย่อมมีผลต่อสุขภาพนกที่อ่อนแอได้แน่นอน แข่งไปอาจถึงหายได้ ซึ่งถ้าอยู่ในสภาวะนั้น “ยา” ก็ต้องให้เพื่อรักษา เพื่อเรียกความสมบูรณ์ของนกกลับมา และ พร้อมแข่งได้ต่อไป แต่ใช้อะไร ให้ยาอะไร เราต้องรู้นะ
.jpg)
แต่ละกรงเชื่อเถอะว่านกนั้นมีโอกาสติดโรคกันได้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับการดูแล การบริหารที่ดี มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับเราครับ มีสิ่งหนึ่งที่ถ้าใครสังเกตุให้ดีเรื่องเกี่ยวกับโรคนั้นแต่ละกรงถ้าเป็นมักจะเป็นซ้ำๆกัน มันมีเหตุมีผล มันมีปัจจัยทำให้มันเกิด อย่างเช่นสภาพแวดล้อมของกรงที่ไม่เหมาะสม ทำเลที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะทำให้นกมีโอกาสติดโรคนั้นๆได้ประจำ ยีนส์นกก็เหมือนกัน นกพันธุ์ที่อ่อนแอนั้นแบกความด้อย อมโรคไว้ ก็ถ่ายทอดความอ่อนแอนั้นมาให้ลูกได้ ดังนั้นควรสังเกตุให้ดี และ ถ้าเป็นปีต่อปีละก็ต้องแก้ไข คิดให้ดี คิดให้ออกว่ามันเกิดจากอะไร และ หาทางป้องกัน มันเปรียบเหมือนโรคประจำกรงก็ว่าได้นะ
การป้องกันโรคของกรงหนึ่งที่ใช้ได้ผลอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับอีกกรงก็ได้เพราะภาวะการติดโรค ระดับการติดโรค โอกาสการติดโรคนั้นต่างกัน คนเลี้ยงนกนั้นแน่นอนไม่อยากแข่งนกที่มีสุขภาพแย่ หรือ แข่งโดยที่ไม่รู้ ไม่ได้สังเกตุ ไม่สนใจก็ทำให้นกนั้นหายไปได้
ถ้าถามคนเลี้ยงนก 10 คน เราอาจที่จะได้คำตอบ 10 แบบ ซึ่งต่างกันในการดูแล การรักษา การป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ไม่มีหมอนกพิราบแข่งจริงจังเหมือนในบางประเทศในยุโรป ยิ่งต้องระวังให้มาก การให้ยาที่ไม่จำเป็นกับนก ให้ไม่ถูกส่วน ไม่ถูกโรคย่อมมีผลกับนกได้แน่นอน การที่เราฟังจากคนเลี้ยงนกทั่วไปนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่เราต้องเข้าใจว่าสิ่งที่พวกเขาบอกนั้นมาจากประสบการณ์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน นกเป็นโรคไม่เหมือนกัน ระดับการเป็นโรคนั้นไม่เท่ากันดังนั้นเราต้องเข้าใจ บอกให้เราฟังหมด และจริงหรือไม่ก็อีกเรื่องนะ และที่บอกมาก็ขอให้คิดและศึกษาให้ดีก็แล้วกันว่ามันใช่และมีเหตุมีผลขนาดไหน แยกแยะให้ออกถึงเรื่องนี้ไม่งั้นจะทำให้เราสับสนได้
นักเลี้ยงนกบางคนมักถามว่านกของเขาติดโรค เป็นโรคได้ไงในช่วงแข่ง? ซึ่งโรคหลักๆที่มักเกิดนั้นมีอยู่ 2 อย่างคือ แคงเกอร์ และ ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งแม้กรงที่มีการดูแลดีก็ตาม ที่เป็นเช่นก็เป็นเพราะภูมิคุ้มกันของนกนั้นไม่สามารถพัฒนาป้องกันโรคเหล่านี้ได้ไง ปัญหาเหล่านี้ทำให้สุขภาพนกอ่อนแอและมีผลทำให้นกถึงบินหายไม่กลับบ้านได้ ปัญหาหลักที่ทำให้นกเกิดโรคเหล่านี้ได้ง่ายอีกอย่างก็คือกรงที่แออัด และ ไม่รักษาความสะอาด ทำให้นกมีอาการเครียดก็มีผลได้ ดังนั้นในระยะยาวเราต้องหาทางปรับปรุงกรงนกให้ถูกสุขลักษณะ หาทางลดจำนวนนก และ การรักษาโดยการให้ยาเป็นสิ่งที่จำเป็นในกรณีเหล่านี้เพื่อเรียกสภาพ เรียกฟอร์มนกกลับมาพร้อมแข่งได้
ดังนั้นสิ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้น อยากที่จะสรุปว่า การให้ยานั้นให้ในสิ่งที่จำเป็นต้องให้เท่านั้น ให้อะไรเราต้องเรียนรู้ เราคิดง่ายๆว่าลูกเรา ไม่สบายก็ไปหาหมอ ให้กินยาตามหมอสั่ง เราไม่ตัดยาสารพัดกับลูกเราแน่ นกก็เหมือนกันครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้นกแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเป็นยาที่ดีที่สุดที่นกต้องการจากเรา
ก็จบเรื่องนี้แต่เพียงเท่านี้ คิดว่าหลายท่านคงได้รับความรู้ เข้าใจ และ ได้สาระไม่มากก็น้อย และ เชื่อว่าในระยะยาวเราจะมีนกที่แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติกันมากขึ้นในแต่ละกรง
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
