JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

10กฎที่น่าจำของนกพิราบแข่ง (ตอนที่ 1)

2012-12-08 11:44:06 ใน สรรสาระ » 0 5738 10กฎที่น่าจำของนกพิราบแข่ง (ตอนที่ 1)



หลังจากที่ได้นำบทความของนาย AD จากหนังสือ The best of Ad S. Vol.1 มาลงให้อ่านกันในท้ายรายการแข่งของส่งเสริมฯ แม้จะข้ามบางบทบางตอนกันไปบ้าง ก็ไม่ใช่ว่าจะขาดหายไปท่านสามารถหาอ่านได้ที่ www.francisloft.com ก็มีให้ครบทั้ง 42ตอนครับ รวมทั้งบทความอื่นๆทีน่าสนใจ ก็ดีใจที่ 2 เดือนกว่าๆ ณ วันที่เขียนอยู่นี้มีผู้ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมกันใกล้ 30,000 ครั้งแล้ว ขอบคุณครับ

วันนี้ก็มีอะไรที่น่าสนใจก็เป็นกฎ 10 ข้อที่คนเลี้ยงนกแข่งเราควรตระหนักถึงและควรจำกัน บทความนี้คงไม่น่าสนใจสำหรับพวกที่คิดว่าตนเองเป็นแชมป์ เป็นเซียน แต่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับคนเลี้ยงนกอีกมาก
ผมเองก็มักที่จะถามคนที่เลี้ยงนกด้วยกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งบ้างก็ให้ความรู้ แบ่งปันกัน บ้างก็ดูแล้วยังปิดๆก็มีก็เลยไม่รู้ว่าที่ปิดเพราะเกรงว่าความลับจะรั่วไหล หรือ สิ่งที่ตนเองทำนั้นอยู่บนพื้นฐานของความไม่แน่นอน ไม่รู้ ไม่มีหลักการ และ ไม่อยู่บนพื้นฐานของเหตุและผล  ก็ไม่ว่ากัน คุยเท่าที่คุยได้ ดีกว่าไม่ได้คุยกัน  สบายใจตรงไหนก็เจอกันตรงนั้นครับ


คนที่เป็นแชมป์นั้นเชื่อไว้เถอะว่าไม่ใช่เพราะนกของเขาอย่างเดียวที่เก่งและทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์สวยไปหมดแต่เป็นเพราะคนเป็นแชมป์นั้นมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เขาชนะ นอกจากนกแล้วก็ต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี ที่เหมาะสมกับนกนั่นก็คือกรงนก การออกแบบ การก่อสร้าง ทิศทางลมที่นกเข้านั้นสำคัญ และ ที่สำคัญอีกอย่างก็คือการเลี้ยง การดูแลที่ดี การรู้จักให้ยา การวางแผน การบริหารจัดการที่ดีประกอบกัน กลมกลืนกันไปหมด  และ นี่แหละครับที่พื้นที่ของการเป็นแชมป์นั้นมีน้อยเหลือเกินหรือน้อยมากก็ว่าได้ เปรียบง่ายๆคือ คนชนะถ้วยมีแค่ที่ 1,2,3 และ อันดับที่สมาคมตั้งไว้ให้  นอกนั้น 80%หรือมากกว่านั้นไม่ติดอันดับเลย  ดังนั้นการเข้าสู่บัลลังค์ ทำเนียบ หรืออย่างน้อยติดอันดับนั้นสมัยนี้ไม่มีฟลุ๊ค  นกที่มีปัญหาตั้งแต่เด็ก นกที่ป่วย นกที่ชน นกที่ขนไม่ดี หรือ นกที่เราเรียกกันว่ามีตำหนินั้น ส่วนมากหาที่เบียดมาติดอันดับได้มากกว่าครั้ง สองครั้งนั้นยากครับ นกสมบูรณ์ ไม่มีตำหนิยังเหนื่อยเลย  

เราต้องยอมรับกันว่านักเลี้ยงนกสมัยนี้ พัฒนาตนเอง นอกจากสรรหานกพันธุ์ที่ดีๆมาเสริมเติมทีมของตนเองแล้ว พวกเขายังสรรหาเพิ่มเติมความรู้  เพิ่มความขยัน และ อดทนมากขึ้น มีสมาธิกับการเข้าคู่นก เลี้ยงนก ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆกันมากขึ้น และ ที่ผมดีใจก็คือการเชื่อในสิ่งที่มีเหตุมีผล และ มีหลักในการวิเคราะห์กันมากขึ้น ก็อย่างสมัยก่อนที่นักเลี้ยงนกนั้นส่วนใหญ่อยู่ที่ฝั่งกรุงเทพฯกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นฝูงนกก็อยู่ที่นี่กัน พอวิเคราะห์เรื่องทิศทางลมกันและธรรมชาติสถิติตัวเลขเป็นแบบนั้น ฝูงนกก็สู้อิทธิพลของลมธรรมชาติที่พัดไปไม่ได้ ดังนั้นเราก็เลยทราบกันดีว่าบางครั้งผู้ชนะนั้นไม่ใช่ว่านกหรือคนเลี้ยงกันทั้งหมดแต่อิทธิพลของลมเองก็มีผลแพ้ชนะของวันนั้นไปได้  ก็มีการสร้างกรงที่ฝั่งธนกันมาก ดังนั้นเรามองคนที่ชนะนั้นไม่ใช่เก่งไปหมด แต่ควรมองที่ภาพรวมๆให้ออกทั้งหมด  ดูง่ายๆสายเหนือนี้มีหลายจุดที่นกทางมหาชัยแถวนั้นมาเร็วกว่ากรุงเทพฯ ซึ่งเราต้องต่อให้แถวนั้นร่วมครึ่งชั่วโมงได้  ไปกลับนั้นชั่วโมงได้  คงจะเห็นภาพชัดขึ้น ยิ่งคนที่จะหานกพันธุ์มาเสริมกรงนั้นต้องวิเคราะห์ ต้องชั่งน้ำหนักให้หนัก ปัจจัยอะไรที่ทำให้ชนะ….. 
 
กลับมาที่ 10 ข้อที่จั่วหัวไว้
  1. “นกที่ดี “ มีหรือยัง  ถามตัวเองว่าที่มีนะดีจริงหรือไม่ ?
ความสำเร็จ ชัยชนะจะมาได้นั้น เราต้องมี “นกที่ดี “ ของตนเอง  นกที่ดีนั้นมีประวัติที่ดี มันฟังแล้วธรรมดา พื้นๆ  แต่คนส่วนใหญ่นั้นไม่ได้ตระหนักให้ดีว่ามันคืออะไร กลับคิดว่าคนชนะนั้นมียาดี มีสูตรลับ ที่ไม่ได้แบ่งให้เราได้รู้ ที่ไหนได้ ความลับถ้ามีก็ “นกของเขา” นั้นแหละ  ผมเห็นคนเลี้ยงนกจำนวนมากที่ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้  ยิ่งเรื่อง ”สายพันธุ์”  กับ “ชื่อคน” นั้นก็อีกเรื่องที่คนเลี้ยงนกเรานั้นยังวนอยู่ในชามอ่าง  บางคนรู้แต่เพียงชื่อสายพันธุ์ ชื่อคน ก็ทึกทักเอาว่าดีไปหมด

อย่างเช่นมูลีมันส์ เป็นชื่อคน นกเก่งๆก็มีหลายตัว เช่น Kadet, Benjamin, Prins, Whitenose แต่ก็ไม่ใช่ว่านกทุกตัวของเขาเก่ง และ พอเจาะลึกๆไปถึงตัวนกนั้นก็ไม่ใช่ว่าลูกของ Kadet ทุกตัวให้ลูกเก่งนะ ยิ่งพวกสี Choco น้ำตาลแดง ที่บ้ากันทั้งโลกอยู่ช่วงหนึ่งนั้น เขาบอกว่าไม่รู้บ้ากันได้ไง สีนี้มันบินซ้อม 5 กม.ก็หายแล้ว   

Gommaire เองก็มีนกหลายสายที่กรง พื้นฐานเดิมส่วนหนึ่งก็เป็นนกที่มาจากมูลีมันส์  หลายปีก่อนผันตัวเองไปเลี้ยงนกทางไกลก็ขายนกที่มีไปหมด หานกไกลมาเลี้ยงก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้ก็เลิกทางไกล กลับมาเลี้ยงในระยะที่ตนเองถนัด บางคนได้นกกอมแมร์มาหารู้ไม่นั้นเป็นนกที่เขาไม่เอา เลิกทางไกล คนได้นกส่วนมากก็ยังจำภาพเดิมๆของกอมแมร์บินเก่งระยะใกล้กลางอยู่ ได้นกไปบินไม่ได้เรื่องก็เยอะ  

ก็เป็นตัวอย่างดังนั้นชื่อคน ชื่อสายพันธุ์นั้นมันไม่มีค่าเท่ากับ ความเก่งกาจของตัวนก หรืออย่างน้อยพี่น้อง หรือขั้นลูกของมันก็ยังดี  อย่าจำแต่ชื่อเพราะมันไม่ได้บอกอะไรเลย  ชื่อบางชื่อที่เอ่ยกันนั้นฝังแล้วแปลกเพราะชื่อนั้นเขาตายไปกว่า 50ปีก็มี  และ เป็นสายอะไรของคนที่ตายนั้นหรือ มันเก่งยังไง 
 
เวลาที่เราไปบ้านคนๆหนึ่งเพื่อจะได้นก เราควรรู้ว่าเราไปบ้านนี้ไปเอาอะไร นกตัวไหน ถ้าไม่รู้ ก็เท่ากับเรารู้จักเขาเพียงแค่ชื่อ คุณไม่รู้จักนกของเขาเลย ทั้งๆที่เรานั้นมีจุดมุ่งหมายคือ ไปเอานก อยากได้นก....
ถามตนเองว่า เราอยากได้อะไร? ทำการบ้านดีพอ?
 
  1. นกที่ดี มีอยู่เฉพาะกับพวกที่มีชื่อเสียงเท่านั้นหรือ?
ก็สอดคล้องกับข้อแรก แต่ให้ภาพชัดขึ้น ก็คือ นกดีๆเก่งๆนั้นมันไม่ได้ผูกขาดมีอยู่เฉพาะกับพวกมีชื่อเช่น แจนเซ่น คูปมัน แวนลูน มาแซล อัลเบรก เฮอร์บอท  คัสสารท์  จอส โทเน่ หรือ อีกหลายๆชื่อดังตามสื่อเท่านั้น  คนที่ดัง มีชื่อเสียงนั้นส่วนมากต่างก็เป็นหนี้นักเลี้ยงนก no name แต่เก่งกันมาก พวกเขาหานกจากกรงเล็กๆเหล่านี้กัน และ ประสบความสำเร็จกันมาก   

บ้านเรานั้นขาดสื่อแต่ดีที่ปัจจุบันโลกออนไลน์ทำให้เราได้รับรู้ข่าวสาร ได้เร็ว ได้เหมือนกับพวกยุโรปดังนั้น เราก็ได้เรียนรู้ว่าคนเก่งๆนั้นไม่ได้มีเฉพาะพวกที่เรารู้จัก และ ที่จริงแล้วเรารู้จักไม่แน่ว่าถึง 1% หรือเปล่าก็ไม่รู้   ที่ยุโรปมีกรงเล็กๆที่เลี้ยงนกไม่มากกันเยอะ พวกนี้น่าสนใจและเป็นเป้าหมายหลักในการหานกของกรงใหญ่ในยุโรปและของผมส่วนหนึ่งก็ว่าได้ นกมีไม่มากทำให้เราเข้าใจนกของเขาได้เร็ว ง่าย และ เข้าถึงแก่นนกที่เราอยากได้ง่ายกว่า

เราต้องยอมรับกันว่าเรารู้จักคนเลี้ยงนกส่วนใหญ่จากสื่อ และสื่อก็เสียเงินลงโฆษณาได้ ลงแล้วลงอีกจนติดตากัน  และ ก็มีกรงจำนวนมากๆที่เก่งกาจแต่เขาไม่สนใจเรื่องขายนก เรื่องสื่อ พวกนี้แหละที่กรงใหญ่ๆมาซื้อนกของพวกเขาและไปเติมทีมนกพันธุ์ของเขา   นกพวกนี้ไม่แพงจนเกินไปซึ่งถ้าเปรียบไปแล้วราคาถูกกว่าเยอะถ้าเปรียบเทียบกับกรงใหญ่  

เอาอย่างกรงคูปมันลูกนกตัวเดียว อายุ 28 วันที่มาจากนกเก่งเดี๋ยวนี้ก็ 7500 ยูโร ก็ ราวๆ 3แสนกว่าได้  ตัวเดียวนะครับ  เร็วๆนี้ผมซื้อนกชนะรางวัลยิ่งใหญ่มากๆของเบลเยี่ยม และ ฮอลแลนด์อันดับที่ 1ราคาไม่แพงไปกว่านี้เลยครับ    ผมซื้อลูกแชมป์อันดับหนึ่งระดับชาติเดี๋ยวนี้มาหลายตัวราคาก็ไม่ได้แพง ราคานั้นถูกกว่าซื้อนกชนะระดับเดียวกันจากกรงใหญ่เยอะ  เพียงแต่ต้องใจเย็นและติดตามข่าวสารกันหน่อย  ก็อยากจะบอกว่านกเก่งไม่ได้มีอยู่เฉพาะกับพวกที่มีชื่อเสียง ควรเปิดโอกาสมองหาที่กรงเล็กๆ มีของดีๆเยี่ยมๆ เพียงแต่ต้องทำการบ้านกันหน่อย บ้านเราก็มีกันเยอะ
 
  1. อายซายน์ นั้นบ่งบอกถึงนกแข่งเก่ง และ ทำพันธุ์ดีได้จริงๆ หรือ ?
นายแอ๊ดเขียนไว้หลายครั้งว่า อายซายน์ นั้นเป็นเรื่อง bull shit หรือ ไร้สาระ เขาเองก็เหมือนกับนักเลี้ยงนกยุโรปจำนวนมากที่ไม่สนใจเรื่องนี้ ไม่มีความหมายอะไรกับพวกเขาเลย



ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้ และ ขอบอกก่อนว่าไม่ได้ลบหลู่นะครับ เพียงแต่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ บอกตามตรงดูไม่เป็นด้วยว่าตานกแบบไหนบินเก่งหรือทำพันธุ์เก่ง ผมเองเคยได้ฟังจากผู้ใหญ่ที่ผมเคารพท่านหนึ่งว่าตานกมีหลายสี ก็เปรียบเสมือนคนบ้านเราตาดำ ฝรั่งเองก็มีตาหลายสี  สีไหนมันเก่งกว่ากันเหรอ  
เอาเป็นว่าเรามองอะไรที่ตานกเหรอ? มันมีหลักการ มีหลักอะไรที่ให้เราได้เรียนรู้ มีเหตุผลอะไรตรงไหน ?
หรือถามตนเองดูว่าเรารู้อะไรจากการมองอายซายน์หรือ?  ตัวท่านเองฟันธงได้ไหมว่านกตัวไหนเก่งหรือไม่เก่ง ทำพันธุ์ได้ดีหรือไม่ดี จากการมองอายซายน์ และ ท่านเจอยอดนกตัวนั้นๆบ้างหรือยังจากการมองส่องหามาทั้งชีวิต?

จบตอนที่ 1 เท่านี้ก่อนครับ ตอนหน้ามาว่ากันต่อถึงข้ออื่นๆกัน
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
Copyright © 2024 www.francisloft.com All right reserved.