viratsopinpornraksa@gmail.com
Tel. 081-731-762510กฎที่น่าจำของนกพิราบแข่ง (ตอนที่ 2)
2012-12-12 22:11:59 ใน สรรสาระ » 
0 
4963 สวัสดีครับมาถึงตอนที่ 2 ของ "10 กฎที่น่าจำของนกพิราบ" เป็นเรื่องที่น่าสนใจและผมเองก็ตอนที่เขียนจำได้ว่ายิ่งเขียนยิ่งมันส์ก็ไหลลื่นไปด้วยดี ก็เขียนจบหมดแล้ว และ ตอนที่ 3 ซึ่งเป็นตอนจบนั้นผมคิดว่าเป็นอะไรที่ไม่ควรพลาด มีข้อคิดดีๆให้คิดกัน และ ตรงประเด็นแน่ ก็ติดตามกันนะครับ
เว็บเราตอนนี้ก็ไปไกล มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมกันเกิน 30,000 ครั้งแล้ว ใน 2เดือนกับ 12 วันที่ผ่านมา ขอบคุณครับ
วิรัช
ข้อที่ 4
ถ้าเลือกได้ คุณจะเลือกแบบไหน?
คำถามดูเหมือนแปลกๆอยู่ แต่ไม่ยากครับ เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสเลือกที่จะต้องตัดสินใจคุณจะเลือกอะไรเช่น ถ้าจะต้องแข่งนกโดยมียอดนกแข่งตัวหนึ่งแต่สภาพร่างกายความฟิตความพร้อมวันนั้นไม่ค่อยดีเท่าไร กับแข่งนกอีกตัวที่มันมีความเก่งไม่เท่ากับยอดนกเอาเป็นว่านกเก่งปานกลางแต่สภาพดี คุณจะเลือกเอาตัวไหนไปแข่ง
สำหรับผม ผมเลือกแบบหลังคือเอานกที่มีสภาพดีไปแข่งดีกว่าเอานกที่ไม่พร้อม ไม่อยู่ในสภาพฟิตเต็มที่ไปแข่ง นกที่ไม่พร้อมเอาไปก็ชนะยาก บางทีถึงกลับหายก็มี แถมถ้ากลับกรงก็กลับมาแบบโทรมๆ ต้องมาขุน มาบำรุงซึ่งยากกว่าแทนที่จะเก็บพักผ่อน ไม่กี่วันเนื้อตัวก็น่าจะดีขึ้นและพร้อมแข่งในนัดถัดไป ปัญหาหลักของข้อนี้คือท่านเคยสังเกตและรู้หรือไม่ว่ามันสภาพร่างกายมันพร้อมหรือไม่พร้อม? อย่างที่บอกไว้ในข้อก่อนหน้านี้ที่ว่า ไม่มีฟลุ๊คนะครับสำหรับการชนะการแข่งขันสมัยนี้ นกดีอย่างเดียวไม่พอต้องมีสภาพที่ดีพร้อมแข่งด้วย
การดูแลนกให้มีสุขภาพที่ดี มีสภาพเยี่ยมนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ มีองค์ประกอบอยู่เยอะ อาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง กรงนกก็มีส่วนสำคัญ อากาศถ่ายเทดีไหม โดนแดด โดนลม โดนฝนเหมาะสมไหม นกนั้นอยู่แบบแออัดเกินไปหรือเปล่า มันจะอยู่ในสภาพที่ดีได้อย่างไรถ้าวันๆมันต้องต่อสู้กับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่ที่ไม่เหมาะสม
.jpg)
เราควรสังเกตดูนกที่กรง ตัวไหนที่ป่วยบ่อยๆ ก็ไม่ควรเก็บไว้ ดูง่ายๆคือถ้านกในกรงแถบจะทั้งหมดสุขภาพดี มีอยู่ตัวสองตัวที่ป่วยแสดงว่ามีปัญหา จับตามองไว้หน่อย ถ้าบ่อยก็ไม่ควรเก็บไว้ เราควรเก็บนกที่สมบูรณ์ด้วยตัวมันเอง สมบูรณ์สุขภาพดีโดยธรรมชาติ ห่างๆการใช้ยาหรือถ้าใช้ยาก็ใช้ยาให้น้อย นกที่แข็งแรงก็จะมีภูมิต้านทานโรคที่ดีตามธรรมชาติ นกแบบนี้เป็นนกที่เราต้องการข้อที่ 5
นกที่ดีคืออะไร?
นกที่ดี กับ นกที่อยู่ในสภาพที่ดีนั้นต่างกัน แต่ คนที่เป็นแชมป์นั้นเขารู้ดีว่าเขาต้องทำอย่างไรให้นกที่ดีของเขานั้นมีสภาพที่ดีซึ่งช่องว่างตรงนี้แหละเป็นอะไรที่กว้างใหญ่มากสำหรับคนที่เป็นแชมป์เลี้ยงนกเก่ง กับ คนที่ไม่ใช่แชมป์ซึ่งผลของมันก็รายงานอยู่ในผลการแข่งขันนกทุกสัปดาห์
ก็อย่างที่เกริ่นไว้ในหัวข้อก่อนหน้านี้นกดีอย่างเดียวไม่พอมันต้องมีสภาพที่ดีด้วยนักเลี้ยงนกจำนวนมากนั้นหลงประเด็นอยู่กับยาวิเศษต่างๆ ทั้งกระปุก ทั้งเม็ด ทั้งผงสารพัดซึ่งเข้าล็อคโฆษณาชวนเชื่อของพวกบริษัทขายของเหล่านี้นกที่ดีมีสภาพที่ดีนั้นควรอยู่ห่างๆของเหล่านี้ให้มาก มันไม่มียาวิเศษเหล่านี้หรอกครับพวกหมอนกเองที่เมืองนอกผลการแข่งก็แย่มีถมไป ถ้าคิดว่ามีของวิเศษเหล่านี้พวกหมอพวกนี้เป็นเซียนเป็นแชมป์กันตลอดศกแล้วครับ
และถ้าคิดว่าพวกแชมป์มียาวิเศษสูตรลับละก็ทำไมพวกเขาถึงต้องสรรหานกดีๆเข้ากรงมาเสริมทีมนกพันธุ์นกแข่งของพวกเขาอยู่ตลอดละ เป็นเพราะพวกเขานั้นรู้ดีว่ามันไม่มียาวิเศษและสิ่งที่สำคัญคือ "นก" ซึ่งนกนั้นต้องมีผลการแข่งที่ดีในตระกูลของมันที่พวกเขารู้ เฝ้าติดตาม และ ที่สำคัญเขารู้ว่าเขาต้องทำอย่างไรที่จะทำให้นกที่ดีของเขานั้นมีสุขภาพที่ดีเช่นกัน
ข้อที่ 6
เพดดีกรีสำคัญไหม?
เพดดีกรีนั้นสำคัญครับ ทั่วโลกเขาใช้กันเป็นสากลนิยม เป็นเอกสารที่ทำให้เราเข้าใจประวัติความเป็นมา ที่มาของนกที่เราซื้อมาได้ดี ชัด และ อ้างอิงได้ สมองคนเรามีความจำจำกัด และ ยิ่งโยงไปโยงมาระหว่าง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง ลูก หลาน ด้วยละก็หมดสิทธิ์ที่จะจำได้หมดแน่
ความสำคัญของกระดาษนี้บางคนใช้มัน เก็บมันอย่างมีคุณค่า บางคนก็เข้าแฟ้มอย่างดี บางคนก็อยู่ในซอง บางคนก็ใส่เข้าคอมพิวเตอร์ สมัยนี้ยิ่งง่ายมีเพดดีกรีการบริหารกรงนก ทำเพดดีกรี และ เข้าคู่นกสำเร็จรูป ราคาไม่แพง ไม่เกิน 3 พันบาทก็หาซื้อได้ ยิ่งเทคโนโลยีสมัยนี้ก้าวกระโดดเร็วมาก การพัฒนาเพื่อให้สะดวก ง่ายกับการใช้ก็พัฒนาได้ดีขึ้น ที่กรงFrancis Loft ก็เป็นตัวแทนจำหน่ายsoftware ที่ดีของ Pigeon Loft Organizer (PLO) นี้ ก็ขายไปจำนวนมากมาย และ ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทยเท่านั้นนะที่เราขาย เราได้ขายไปหลายๆประเทศ บางคนก็ไม่ค่อยสนใจก็สุดแล้วแต่ใครให้ความสำคัญมากน้อยกว่ากัน
สำหรับผมซึ่งเล่นกับsoftwareพวกนี้มานานหลายปี หลายแบบ บอกได้ว่าPLO นั้นสุดยอดและช่วยได้เยอะมาก มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เวลาที่ครอบครัวนกเหล่านั้นๆใหญ่ขึ้น เพดดีกรียิ่งสำคัญครับ การสร้างเหล่านกของตนเองนั้นสำคัญ เราควรรู้ที่มาของนกของเรา คนที่เข้าคู่นก มีเหล่านกที่ดีนั้น เขารู้ถึงที่มาของนกเขานั้นพัฒนาการมาอย่างไร ถ้ามีเพดดีกรียิ่งง่ายขึ้น
จริงอยู่หลายคนบอกว่ามันเป็นกระดาษ เขียนอะไรก็ได้ นั่นก็อยู่ที่ความจริงที่อยู่บนกระดาษนั้นกระดาษมันไม่ได้บิน นกต่างหากที่บิน ก็ในเมื่อมันบินและบินเก่งซะด้วยก็ต้องมีอะไรที่เราควรต้องรู้ว่านกตัวเก่งนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เราเข้านกตัวไหน และ อนาคตเราจะอินบรีด ไลน์บรีด ครอสผ่าเหล่า นั้นเราทำได้ง่ายไง
ลองถามตนเองดูง่ายๆนะครับเมื่อมีเวลาก็ลองเข้าไปที่กรงนกแข่งหรือถ้าให้ดีก็กรงนกพันธุ์ เราชี้นกที่บ้านเราและถามตนเองดูว่า นกตัวนี้มาจากไหน? มีที่มาที่ไปอย่างไร? พ่อแม่มันคือใคร? วงศาคณาญาติมันเก่งอย่างไร? ลูกหลานมันเก่งไหม? และ ดูว่าเรามีคำตอบกับนกทุกตัวของเราได้มากน้อยขนาดไหน? ลองทำดูนะครับ
ข้อที่ 7
นกบินซ้อมออกกำลังกายที่บ้าน และ นอกสถานที่ดีพอ?
คนเป็นแชมป์นั้นเขาไม่ซ้อมนกหรือแข่งนกที่ไม่พร้อม และ บินยังไม่ดีพอ ส่งไปก็หายหรือกลับได้แต่สภาพที่แย่ต้องมารักษา มาบำรุงกันยาว ยิ่งเสียเวลา เสียความรู้สึกกันมากขึ้น
นกที่พร้อมสังเกตุได้ง่ายคือปล่อยบินแล้วเที่ยวหายไปนานพอควร อาจจะกลับมาแล้วเที่ยวต่อ ไปทีทั้งฝูง กลับมาเป็นก้อนมองบนฟ้าเป็นก้อนเล็กๆ ถ้าอาทิตย์ไหนนกท่านเป็นแบบนี้ อาทิตย์นั้นผลแข่งดีแน่
นักเลี้ยงนกรุ่นใหม่เขาไม่ค่อยที่จะใช้ธงโบกไล่นกกันแล้ว สังเกตุนกที่มีสุขภาพที่ดีมันบินของมันเอง และ เที่ยวนานพอควร ตัวไหนไม่พร้อมมันก็ไม่บินเท่าไรนะ เราจะได้รู้ไง ยิ่งถ้าใช้ธงขณะที่นกไม่พร้อมมันก็เกาะรอบกรง มันไม่พร้อมก็เท่ากับซ้ำเติมสุขภาพของมันให้แย่ลงไปอีกนะ
จบตอนที่ 2 คิดว่าหลายท่านคงได้แง่คิดดีๆกันบ้างนะครับ สำหรับคอนที่ 3 จะนำมาลงเร็วๆนี้ครับ
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
