viratsopinpornraksa@gmail.com
Tel. 081-731-7625สรรสาระ 2/12 “ 10 สิ่งที่คนที่ไม่ใช่แชมป์มักทำผิด ”
2012-09-05 15:57:38 ใน สรรสาระ » 
0 
1783 | สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ไม่ได้เขียนท้ายรายการของสมาคมมานานพอควร วันหนึ่งทางสมาคมส่งเสริมฯสมัยคุณชูพล ก็ได้คุยกับผมให้ผมช่วยเขียนบทความเมื่อหลายเดือนก่อนก็บอกว่าได้ และ คิดว่าในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในผู้บริหารสมาคม ถ้ามีอะไรที่คิดว่าดีก็ยินดีครับ ก็จะเขียนให้ครับ ซึ่งกว่าจะจรดปากกาได้ก็นานพอควร เรื่องที่จะเขียน ก็จะเป็นสีสรรดีๆ เป็นข้อคิดดีๆ เป็นข่าวสารดีๆ กรงนก หรือ สายพันธุ์ ให้สมาชิกได้อ่านกัน หยุดสงกรานต์นานเกือบสองอาทิตย์พอมีเวลา และ เอาเป็นว่าจะเขียนเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าว หรือ แปลบทความ หรือ อะไรที่คิดว่าดีก็จะมาลงท้ายรายการให้อ่านกัน เรื่อยๆ ครับ
วันนี้คงขอเริ่มด้วยบทความดีๆ ของยอดนักเขียนบทความนกพิราบแข่ง คนดังของโลก Mr. Ad Schaerlaeckens นายแอด คนนี้ผมเคยแปลหนังสือเล่มที่ 1 ของเขาไว้ เอาไว้มีโอกาสดีๆ ก็จะนำมาให้อ่านกัน รวมทั้งแปลเล่มที่2 ที่ออกมาใหม่ สำหรับวันนี้เป็นบทความที่อ่านแล้วชอบ และ คิดว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับหลายท่านที่ถ้าอ่านแล้ว ได้แง่คิดดีๆ กลับไปคิดว่าที่เราทำไป เผลอไป หรือ ไม่ทันได้คิดนั้นมันตรงกับที่เขาเขียนไหม ถ้าใช่ก็นำไปแก้ไขกัน ไปปรับปรุงวิธีการบริหารจัดการกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว ช่วยเตือนใจเราได้ดีครับ ก็ตามสไตล์ผมคือไม่แปลแบบตรงๆ เขียนตามสิ่งที่คิดว่าเข้าใจกันง่ายๆ และเพิ่มเติมในสิ่งที่คิดว่ามันเข้ากันได้ดี มาเข้าเรื่องกันดีกว่า สิ่งที่คนเลี้ยงนกอย่างเราต้องการมากที่สุดก็คือ ความสำเร็จ ชัยชนะ ชื่อเสียง ความสุข ซึ่งแน่นอนมันไม่ง่ายเลยที่ใครคนหนึ่งจะทำสำเร็จและผู้คนทั่วไปสรรเสริญให้เกียรติเรียกเขาว่า “แชมป์ หรือ แชมเปี้ยน” สิ่งที่นายแอดเขียนไว้ ซึ่งมี 10 สิ่งที่คนเลี้ยงนกมักทำผิด เข้าใจผิด หรือรู้ทั้งรู้ก็ยังละเลยไป ยังทำผิดอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้คนที่เป็นแชมป์เขามองเห็น คิดเป็น และ ก้าวข้ามมันไปได้ 1) “ยึดติดในสิ่งที่ไม่ควรยึด” คนจำนวนมากยังคงยึดติดให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของคนเลี้ยง สายพันธุ์ และ เพดดีกรีกันมากเกินไป พวกนี้สร้างความผิดหวังมานับไม่ถ้วนแล้ว (นกนะเอาตระกร้าวัดกัน ผลงานวัดกัน) 2) “ผิดเวลา” ทำอะไรไม่ถูกที่ ถูกเวลา อย่างถึงเวลาที่จะต้องให้ยา ตัดยากัน ก็ไม่ทำ บ้างก็ทำก่อน บ้างก็ทำหลังเวลาอันควร บางคนเห็นผลงานนกไม่ดีก็คิดว่ายาช่วยได้ ทั้งๆ ที่นกมันไม่พร้อมก็ไม่ได้แปลว่ามันป่วย ซึ่งมันก็ไม่มียารักษาโรคตัวไหนที่ทำให้นกที่มันโทรมให้ดีขึ้น ซึ่งมันอาจจะต้องการพักผ่อนมากขึ้น ให้พัก ให้อีเลคโตรไลท์ วิตามินดีๆ มันก็ดีขึ้น ไม่ใช่ถึงหน้าแข่งก็จะซ้อม จะแข่งตลอดไม่ดูสภาพนกเอาเลย และ ถ้ามันสายไป นกทรุดมากๆ ถึงตายก็เป็นอะไรที่ต้องบอกได้ว่า ช้าเกินไป ในการตัดสินใจ 3) “เปลี่ยนตลอด” คนที่ไม่ประสบความสำเร็จนั้น สิ่งที่ทำผิดประจำที่เห็นกันก็คือ เปลี่ยนวิธีการเลี้ยงประจำ พอไอ้วิธีนี้ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ชนะทันใจ ก็เปลี่ยน ฟังคนเขาเล่ามาก็ไม่ได้คิดให้ดีก็เปลี่ยน บ้างเปลี่ยนสูตร อาหาร ซ้อม เข้าคู่นก กกไข่ ไล่บิน สารพัด สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ การเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกนี้ไม่รู้เรื่องนี่ละครับ มีอีกประเภทก็คือ ดื้อด้าน เลี้ยงยังไงก็จะอย่างนั้นตลอดอันนี้ก็ไม่ถูกนะครับ อะไรที่ดีกว่าคิดให้ดี นำมาดัดแปลงแก้ไขเพื่อหวังผลดีขึ้นได้ไหม คิดให้เป็นระบบ คิดให้มีเหตุผล 4) “ไว้ใจ” การเลี้ยงนกแข่งแบบบ้านเราที่เรียกกันว่า Young Bird นั้นสิ่งที่สำคัญคือเราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนก คนที่ไม่ประสบความสำเร็จนะเวลาเดินเข้ากรง นกมักจะกลัว หวาดผวา และ พยายามหนีถ้าคนเข้าใกล้ ซึ่งต่างจากแชมป์เวลาเข้ากรง นกมักจะต้อนรับ ร้องขัน คึกคนอง อยู่เป็นที่ของมัน มีความคุ้นเคย ไว้ใจ มีระเบียบดี ไม่บินมั่วเวลาเข้าใกล้ ว่ากันว่า เวลาคนเลี้ยงนกเก่งๆ อยู่ในกรงนะเขาเล่นกับนก ต่างจากคนเลี้ยงที่ไม่เก่งที่นกเล่นกับคน 5) “ป้องกัน หรือ รักษา” คนที่ไม่ใช่แชมป์ต้องการหายารักษาโรคดีๆ รักษานกของเขา ซึ่งต่างจากแชมป์ที่พยายามป้องกันนกของเขาไม่ให้เป็นโรค ใส่ใจกับสภาพแวดล้อม น้ำดื่มของแชมป์ส่วนใหญ่ขาวสะอาด ต่างจากคนที่ไม่ใช่แชมป์ซึ่งน้ำดื่มมักจะมีสีสรร ใส่โน้น นี่ นั่น เข้าไปในน้ำ ในอาหาร สารพัดประจำ คนที่ไม่ใช่แชมป์นั้นยังใจดีกับนกที่สุขภาพไม่ดี ต่างจากคนที่เป็นแชมป์ที่มักจะกำจัดนกที่สุขภาพไม่ดีทิ้งไปจากกรง อันนี้ก็ไม่อยากที่จะขยายความกันนัก บ้านเราเมืองพุทธ เรามักจะไม่ทำอะไรกับสัตว์เลี้ยง เจ็บป่วยก็รักษากันจนสุดๆ เรื่องนี้ก็แล้วแต่ใครคิดละครับ วัฒนธรรมของบ้านเมืองแต่ละประเทศนั้นต่างกัน 6) "มากเกินไป" การให้อาหารหนักเกินไปสำหรับการแข่งนกแบบ Young bird นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย ผมหมายถึงการให้อาหารจำพวกโปรตีนมากเกินไป เช่นพวกถั่ว ไม่ใช่ว่าถั่วไม่ดีนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนมันเล็กกำลังป้อน กำลังโตนั้นสำคัญมาก แต่ถ้าเป็นนกแข่ง YB นั้นเปรียบเสมือนยาพิษ ก็ระวังกันหน่อย 7) "ไร้เดียงสา" นักเลี้ยงนกที่ยังไม่เป็นแชมป์นะยังไร้เดียงสา ยังซื่ออยู่ เพราะพวกนี้เวลาเข้าคู่นกไม่ได้ตระหนักให้ดีว่า โชคดี? นั้นสำคัญมากขนาดไหนเวลาเข้าคู่นะ คิดกันเองว่าเอานกตัวผู้ที่เก่ง เข้ากับตัวเมียที่เก่ง หรือ พี่น้องตัวเก่ง ลูกมันก็เก่งเองโดยอัตโนมัติ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ 8) "ล้างสมอง" พวกที่ยังไม่เป็นแชมป์นั้นมักถูกล้างสมองด้วยสื่อ โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ว่าจะโฆษณานก ยา วิตามิน สารพัด ไอ้การจะแชมป์นะมันต้องอยู่กับโลกของความเป็นจริง ต้องเรียนรู้ ต้องศึกษามัน และ ถ้าเป็นนกก็ต้องนกเก่งหรืออย่างน้อยในเหล่าของมัน จะหานกก็ต้องศึกษาว่านกดีจริง กรงนั้นเก่งจริงตรงนี้สำคัญไม่ใช่เขาเล่าว่า หรือ โฆษณากันมา เราต้องรู้ว่ากรงๆหนึ่งมันไม่ได้มีนกเก่งทุกตัว อย่างน้อยกรงนี้มีอะไรดี มันเป็นอย่างไร เก่งระยะไหน เลี้ยงแบบไหน ทั้งกรงเขาอาจจะมีนกมากมายหลายสายพันธุ์ เป็นไปได้ไหมก่อนซื้อก็ต้องศึกษาให้เวลากัน ก็คล้ายกับพวกที่จับนกได้ ขายต่อกัน พอเป็นนกกรงนี้ก็รีบซื้อ อยากได้ เพราะมีชื่อเสียง เหมาเอาเองนกกรงนี้ยังไงก็ต้องเก่ง หรือคุยได้ว่ามีนกจากกรงนี้ แล้วไงละ บางที่กรงที่ท่านคิดว่าดังอาจจะมีนกชาวบ้านฝากไว้มาก และ นกที่จับได้ก็เป็นนกของชาวบ้านที่มาฝาก ซึ่งที่คิดว่าใช่มันก็ไม่ใช่ก็เป็นได้ ถึงใช่จับได้แล้วไง พวกไหน เหล่าไหน เก่งไหม ก็ไม่รู้ 9) "นกแก่" นายแอดบอกว่า เขาเห็นกรงที่ยังไม่เก่งที่กรงนกพันธุ์มักมีนกแก่ที่ให้ลูกไม่เก่งอยู่ในกรง ก็งงเหมือนกันว่าเก็บไว้ทำไม 10) "นกสมัยใหม่" นั้นรูปร่างไม่ใหญ่ บางคนเชื่อว่านกรูปร่างใหญ่นั้นดี และ แข็งแรงกว่า สมัยนี้นกรูปร่างที่ไม่ใหญ่นั้นเหมาะกับการแข่งขัน ทนต่ออากาศ และ บินในระยะที่ไกลได้ดี ก็จบครบสิบข้อ คิดว่าน่าจะมีข้อคิดดีๆ กัน อย่างน้อยสักข้อก็ยังดี ส่วนใครที่คิดว่าจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็คุยกันได้นะ ก็อย่าลืมละว่า บทความนี้เป็นของยอดนักเขียนและนักเลี้ยงนกที่มีชื่อเสียงของโลก นายแอด นะครับ ไม่ใช่ผม แต่ก็ยินดีครับถ้ามีข้อสงสัย ก็คุยกันได้ที่สมาคมส่งเสริมฯ ครับ ฉบับหน้าก็จะมีบทความดีๆ มาฝากกันครับ เอาว่า 10 ข้อที่เรามักผิดพลาดกัน ก็ได้ผ่านไป ฉบับหน้าจะนำข้อดีๆ ของคนเลี้ยงนกที่ควรมี พลาดไม่ได้ ก็ติดตามกันนะครับ บทความเหล่านี้อ่านกันได้ที่นี่ www.francisloft.com |
กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ
