สรรสาระ 6/12 : 2 สิ่งที่คนเรามักดูเหมือนแต่แตกต่าง

2012-09-26 10:54:27 ใน สรรสาระ » 0 2534

" 2 สิ่งที่คนเรามักดูเหมือน แต่แตกต่าง "

ในโลกของวงการนกสมัยนี้เป็นโลกที่เปิด มีความรู้มากมายให้เราได้อ่าน ได้ศึกษากัน นอกจากความรู้ที่ได้ปรับให้รู้กันแบบดีวันดีคืนแล้ว เรื่องยา การให้ยารักษาโรคของนกพิราบก็ได้พัฒนาดีขึ้นมาก ทำให้นกที่กรงเรานั้นปลอดโรคกันได้
                                    
                                      

ก่อนอื่นเราควรทำความเข้าใจกันก่อนว่าสุขภาพที่ดีของนกนั้นควรที่จะต้องเป็นแบบธรรมชาติ มาจากการกินอาหารที่ดี กรงที่ดี สุขภาพที่ดี การออกกำลังกาย การดูแลที่ดี ทั้งนี้เพื่อให้นกมี "ภูมิคุ้มกันโดยตัวของมันเอง" ก่อน สิ่งนี้จะเป็นตัวจักรที่สำคัญที่ทำให้นกต่อสู้ป้องกันโรคภัย ป้องกันการเจ็บป่วย ที่เข้ามาในช่วงซ้อมช่วงแข่งตามธรรมชาติด้วยตัวมันเองก่อนให้มากที่สุด แล้วเราก็จะใช้ยารักษาน้อยที่สุด

กรงไหนที่เลี้ยงดี ดูแลดี ก็จะใช้ยาน้อย ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องยากนะที่จะดูแลไม่ให้นกไม่เจ็บป่วยเลยในช่วงแข่ง แต่อย่างน้อยฝูงนกที่มีภูมิคุ้มกันที่ดีที่เริ่มตั้งแต่เข้าคู่นกนั้นจะต่อสู้กับโรคที่เข้ามาเยือนได้

ปัจจุบันคนเลี้ยงนกจำนวนมากต่างก็เชื่อเหมือนกันว่า "ยา" เป็นสิ่งที่จำเป็นถ้าอยากที่จะให้นกรักษาฟอร์มที่ดีของมันไว้ให้นานที่สุด ยานะเราควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น และ การให้ยาที่ไม่ถูกหลัก ไม่ถูกวิธีนั้นเป็นการทำให้นกฟอร์มตก และ เป็นตัวการที่ลดภูมิคุ้มกันของตัวนกไป อย่าลืมนะครับนกบางตัวเราก็เก็บไว้ทำพันธุ์ในอนาคต และ ถ้าท่านที่ไปซื้อนกตามกรงทั่วไปก็ควรรู้ด้วยว่านกกรงไหนใช้ยามากน้อยขนาดไหน ใช้มากก็มีภูมิคุ้มกันน้อย นกก็มีโอกาสป่วยง่ายและถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานเช่นกัน

ผมยังจำได้ดีถึงคำพูดของพี่โต รณชัย จองศิริ แห่งกรงสุขสันต์ว่า นกพวกสายพันุ์สเตียร์นี้แปลกอายุแค่6-7ปี บางตัวไม่มีเชื้อ ไม่ไข่ก็มี พี่โตก็มาวิเคราะห์ถึงเหตุผลว่าทำไม พี่เขาก็สันนิษฐานและบอกผมว่าตอนพวกนกรุ่นแรกที่เป็นนกแข่งนั้นเขาให้ยามากตั้งแต่นกยังไม่แยกจากพ่อแม่จนแข่งเสร็จก็เอามาทำพันธุ์ นกพวกนี้กินยาสารพัดรูปแบบ พอมาทำพันธุ์ก็น่าจะมีผลได้ ผมก็ว่าจริงเพราพี่แกยัดยานกเกือบทุกวัน

ดังนั้นการให้ยาอย่างระวังและฉลาดใช้เป็นสิ่งที่จำเป็น บริษัทที่ผลิตยาสำหรับนกพิราบนั้นเขาได้วิจัยและค้นคว้ามาอย่างดีดังนั้นยาที่ผลิตมานั้นยากที่จะทำให้นกที่ฟิตสมบูรณ์ฟอร์มตกหรือมีผลข้างเคียงที่น้อยมากสำหรับนกที่เจ็บป่วย ดังนั้นเราก็คิดกันเอาเองว่าการที่เอายาของสัตว์อื่นที่ต่างกันมากๆในสรีระของร่างกาย หรือ ของคนมาให้กับนก หรือ เอายาอะไรก็ไม่รู้มาจากไหน มีบริษัทเป็นตัวเป็นตนหรือไม่ หรือ มาผสมกันเองใส่ขวดติดสติคเกอร์ ติดสลาก ก็คิดกันเองได้นะครับ

การให้ยาที่ถูกต้องนั้นสำคัญนอกจากจะควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายทำให้นกทรุดแล้วยังรักษาโรคได้เร็วที่สุดด้วย สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือควรที่จะหมั่นสังเกต ถ้านกมีอาการติดโรคก็ต้องรีบรักษา รักษาได้เร็วเท่าไรนกก็เสียหายน้อย และ กลับคืนสู่ฟอร์มพร้อมแข่ง และ เก็บชัยชนะต่อไปได้เร็วเช่นกัน

                     

ยาทั่วไปมี 2 อย่างคือ "ยาที่ใช้สำหรับป้องกันโรค" และ อีกอย่างก็คือ "ยาที่ใช้รักษาโรค"

"ยาป้องกันโรค"
เป็นที่รู้กันดีว่านกนั้นสามารถมีโอกาสติดโรคได้จากในตะกร้าหรือไม่ก็จากนกด้วยกันในรถแข่งหรือจากรถแข่งเองที่ไม่สะอาดพอหรือออกแบบไว้ไม่ดีพอทำให้ทั้งลมทั้งฝนนั้นก็เป็นปัญหาได้ไม่เว้นแม้แต่นกที่มีสุขภาพดีก็ตาม ดังนั้นการให้ "ยาป้องกันโรค" เป็นเรื่องที่ควรให้ป้องกันไว้แต่ก็ควรให้อย่างระวังและรอบคอบ นกที่เข้าข่ายจะติดโรคจากการแข่งที่ว่าไว้ได้มากที่สุดก็เป็นนกพวกที่เหนื่อย นกอ่อนแอ ดังนั้นเวลาที่ดีที่สุดในการให้ยาป้องกันโรคก็คือเร็วที่สุดหลังนกกลับจากการแข่งขัน

ยาที่ใช้ป้องกันโรคนั้นกลุ่มโรคที่ใช้กันก็เป็นพวก "ระบบทางเดินหายใจ" ยาในกลุ่มนี้จะไม่มีผลกับฟอร์มหรือภูมิต้านทานธรรมชาติของนก ไม่ใช่ว่าจะต้องให้ทุกครั้งทุกตัวนะครับก็หมั่นสังเกตดูนะครับว่านกมีปัญหากับการติดโรคจากการแข่งขันไหมครับ

การจะให้ยาป้องกันหรือไม่นั้นก็ลองสังเกตดูนะครับ ง่ายๆก็เริ่มจากขี้นกมันไม่ปรกติ มูลไม่สวย มีน้ำมาก มีสีเขียวเละๆ นกฟอร์มตกไป ขนแห้ง ตาหรี่ๆจนถึงปิด ไม่ค่อยกินข้าว ให้ยาป้องกันไปแล้ววันรุ่งขึ้นอาการก็น่าจะดีขึ้นสังเกตที่ตานกดูนะครับมันน่าจะมีประกายดีขึ้น ขี้นกและขนนกก็น่าจะดีขึ้นจนถึงแป้งที่ขนก็น่าที่จะเริ่มดีขึ้น ก็เป็นอะไรที่เราป้องกันโรคกันได้ ไม่ยากใช่ไหมครับ สังเกต ป้องกัน และ เราก็จะสนุกกับการแข่งนก ดีกว่าทุกข์นะครับ

"ยารักษาโรค"
ถ้านกเป็นโรค หรือ เกิดโรคระบาดแล้ว ยารักษาโรคจำเป็นต้องใช้ และ เรื่องนี้ยากกว่าป้องกันมาก เมื่อนกเริ่มเป็นโรคต้องรีบแยกและรักษา นกที่เป็นโรคนั้นมีผลทำให้ผลการแข่งไม่ดีจนถึงหายไม่กลับบ้านได้ใน2-3 สัปดาห์ ดังนั้นควรตรวจสอบให้รู้ว่านกเป็นโรคอะไร และให้ยาให้ถูกเพื่อรักษาโรค
โดยปรกติแล้วยารักษาโรคนั้นก็ตามชื่อคือรักษาดังนั้นขนาดความแรงของยาก็มากตามเพื่อรักษาโรค ดังนั้นเราควรที่จะระวังเรื่องของการให้ยา ยาชื่อเดียวกันนั้นมีขนาดที่ต่างกัน เช่น 100มก. 250มก. 500มก. ก็อย่างที่ผมเกริ่นไว้ที่ชื่อเรื่องของวันนี้ว่า

"2 สิ่งที่คนเรามักดูเหมือน แต่แตกต่าง"

ไงละครับ ยารักษาโรคนั้นเรามักที่จะไม่ใช้กับนกที่มีสุขภาพที่ดีเพราะมันอาจมีผลให้ฟอร์มนกนั้นตกลงไปได้หรือมีผลต่อการออกไข่มีเชื้อ ฯลฯ ได้เช่นกัน

ยารักษาโรคก็ใช้ตามชื่อคือใช้กับนกที่เป็นโรคหรือมีภาวะวิฤตคือการระบาดของโรค ช่วงเวลาของการรักษาโรคกับป้องกันโรคนั้นก็ต่างกัน การให้ยารักษาโรคนั้นก็ให้กันประมาณ1-2วันต่อสัปดาห์ แต่ ถ้ารักษาโรคนั้นให้แบบต่อเนื่องอย่างน้อยก็ 3 วันขึ้นบ้างก็ยาวถึง 1-2สัปดาห์ก็มีแล้วแต่โรค
ดังนั้นอัตราความแรงของยาที่แตกต่าง และ ระยะเวลาการให้ยาที่ไม่เหมือนกันระหว่างยารักษาโรคกับยาป้องกันโรคนั้น เราควรที่จะเรียนรู้และระวังในเรื่องการให้ยา เพราะนกไม่ได้เปิดฝา เปิดขวด อ่านฉลากกินยาได้เองนะครับ สวัสดี....