สรรสาระ 8/12 : 6 องค์ประกอบของความสำเร็จ ภาค 2

2012-09-26 11:34:17 ใน สรรสาระ »

3212

" 6 องค์ประกอบของความสำเร็จ ภาค 2 "?

สวัสดีครับ คราวที่แล้วก็ได้ว่ากันไปแล้ว 3 เรื่อง เราก็ได้พูดถึง เรื่องของ

1) กรงนก 2) นกพันธุ์ นกที่เป็นพื้นฐานหลักของกรงซึ่งเป็นแหล่งผลิตขุนพล แม่ทัพ และ อาวุธที่เราใช้ต่อสู้ในสนามแข่ง และ ก็ได้พูดถึงเรื่องที่ 3) อาหาร ซึ่งเราให้อะไรกับนกเพื่ออะไร ตอนไหน ช่วงเวลา อายุนกเท่าไรควรให้อาหารอย่างไรเป็นสิ่งที่เราควรที่จะศึกษา รู้ถึงคุณค่าทางอาหาร นกในแต่ละช่วงอายุ และ เวลาเช่นลูกนก นกบิน นกผลัดขน นกป่วย นกแข่งแต่ละระยะก็ไม่เท่ากันดังนั้น ศึกษาให้รู้ดีกว่า ให้แบบไม่รู้ครับ

มาถึงอีกสามเรื่องที่เหลือก็เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกัน เป็นองค์ประกอบที่ขาดหรือละเลยไม่ได้

4) "การเข้าคู่นก" เรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่ต่อเนื่องจากข้อสองที่เราต้องมีนกพันธุ์ นกหลักของกรง ถ้าไม่มีละก็เป็นเรื่องยากมากที่จะประสบความสำเร็จในการแข่งนก เรื่องการเข้าคู่นกนั้นผมเคยกล่าวไว้หลายครั้งแล้วว่ามันเป็น

"ศาสตร์และศิลป์"

ในตัวของมันเอง มันไม่มีสูตรสำเร็จว่าอะไรเข้ากับอะไรแล้วได้ผล 100% หรือ การันตีว่าเก่งแน่นอน ให้ลูกสุดยอดนกแข่งได้ทุกตัว อย่าคิดว่าซื้อนกมาแพงๆหลักหมื่น หลักแสนแล้วจะเก่งกว่านกที่ซื้อหลักพัน นกนะมันไม่มีคู่ตายหรอก ผมเคยอ่านบทความของนาย AD พูดถึง Golden Couple พวกนกคู่ทอง เขาเขียนโดนใจดีว่ามันไม่มีในโลกหรอกที่ให้ลูกเก่งสุดยอดทุกตัว เอาเป็นว่ามันอาจให้ลูกเก่งแต่ไม่ใช่ทุกตัวแน่นอน แม้แต่คู่ไข่ของมันบินไม่ได้เรื่องก็มีมากมายมหาศาล มันเป็นเรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อซะมาก ถ้าใครเป็นแฟนของนายAD ปรมาจารย์นักเขียนเรื่องนกนั้น เขามักจะย้ำเตือนเสมอเรื่องการหานก ให้ดูที่ผลการแข่งของกรงและนกตัวเก่งเป็นหลัก เพราะมันพิสูจน์ตัวมันเองแล้ว

คนจำนวนมากอยากได้นกมาทำพันธุ์ รู้อย่างเดียวชื่อคน ชื่อกรงแล้วเหมาฝันเอาว่านกทุกตัวของกรงนี้เก่งหมด "ควรต้องทำการบ้านให้ดีก่อนที่จะเสียเงินแล้วเอาขยะกลับบ้าน เอาตัวเก่ง สายที่เก่งของกรงมา"

การเข้าคู่นกนั้น ควรมาจากนกที่ดีมีผลงาน ทั้งคู่ควรที่จะอยู่ใน "ระยะที่หวังผลเหมือนกัน" คือ ไกลเข้ากับไกล ใกล้เข้ากับใกล้ กลางเข้ากับกลาง และขนาดของนกนั้นไม่ควรจะใหญ่ เรื่องของตาหรือEye Sign นั้นโดยส่วนตัวผมไม่ใส่ใจเท่าไร ดูตาเพื่อบอกถึงสุขภาพเป็นหลัก ปีกนกไม่ควรทึบ ซับในไม่ควรยาวเกินไป นกที่เข้าคู่เพื่อหวังผลให้ลูกนกออกมาดีนั้นควรที่จะมีสุขภาพที่ดีมากๆ สมบูรณ์เต็มที่ เราควรที่จะศึกษานกที่จะเข้าคู่ให้ดี รู้ประวัติและผลงานให้ลึกซึ้ง และถ้ามีใบที่เขาเรียกกันว่า "เพดดีกรี" ได้ยิ่งดี

ใครที่ว่าเพดดีกรีเป็นแค่กระดาษผมว่าคิดผิด ฝรั่งที่ขายนกไปทั่วโลกได้มหาศาลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองจีนนั้นเป็นเพราะเขาสามารถบรรยาย อ้างอิงที่โคตรเหง้าเหล่ากอได้ก็จากการบันทึกรายละเอียดที่เรียกว่าเพดดีกรีนี้ละครับ เราใช้ข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการเข้าคู่นกได้ เราใช้ความเก่งกาจของนกทั้งคู่มาเข้าคู่ได้ หรือ อย่างน้อยก็ใกล้เคียงกัน มันสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะการเข้าคู่อินบรีด ลายน์บรีดเพื่อทำพันธุ์ เราต้องรู้เหล่านกให้ดี และ สามารถเข้าเหล่านกได้ดีถ้าเราเห็นเป็นรูปธรรมก็คือมีเพดดีกรีมาอ้างอิงให้วิเคราะห์กัน สิ่งที่เราแพ้ฝรั่งอย่างหนึ่งก็คือการบันทึก ฝรั่งเขาถึงอ้างอิง เขาถึงพัฒนาการผสมสายพันธุ์นกได้ละเอียดกว่า

การเข้าคู่นกนั้นต้อง "ฝัน" ให้ได้ว่าเข้าคู่แล้วนกจะออกมามีลักษณะเช่นไร รูปร่าง หน้าตา ปีก โครงสร้างควรจะใกล้เคียงกับที่เราฝันไว้ และ ท้ายที่สุดก็ผลแข่ง นี่ถือเป็น "ศาสตร์และศิลป์" ที่ผมว่าไว้ไงครับ

5) "การฝึกซ้อม และ สภาพของนก" เราหมายรวมถึงการบินที่บ้าน และ การนำนกไปซ้อมนอกสถานที่จนถึงเข้าแข่ง ก่อนที่จะออกนอกสถานที่นั้น การบินออกกำลังกายที่บ้านเป็นเรื่องที่สำคัญ ค่อยๆให้นกพัฒนาตัวมันเองตั้งแต่เล็ก เราจะเห็นถึงการเจริญเติบโตของมัน พัฒนาความกล้าและความซ่าของตัวมันเอง จนใกล้แข่งมันบินที่บ้านแข็งจับกลุ่มเที่ยว ปะทะกับกลุ่มอื่น แยกฝูงบินเที่ยวไปมาจนคล่อง จากนั้นค่อยคิดถึงเรื่องการซ้อมนกนอกสถานที่ ผมสังเกตสิ่งหนึ่งถ้าปีไหนนกชอบบินเที่ยวไม่ค่อยติดกรง ชอบบินไปเที่ยวนานปีนั้นผลงานนกจะบินดี การบินบางท่านก็ใช้ธงบังคับ บางท่านก็ไม่ใช้ก็แล้วแต่สูตร วิธีการเลี้ยงนกแต่ละท่านละครับ

การบินรอบบ้านนั้นถ้าเราสังเกตเราจะเห็นถึงวิวัฒนาการของนกแต่ละตัวนั้นไม่เหมือนกันนั่นหมายรวมถึงสุขภาพและสภาพของนกในอายุที่เท่ากัน บางตัวแข็งแกร่ง บางตัวอ่อนแอ บางตัวโตเร็ว บางตัวโตช้า บางตัวถ่ายขนได้ดี บางตัวช้าจนถึงไม่ถ่ายก็มีนั่นคือ "สุขภาพ และ สภาพของนก" แต่ละตัว

การปล่อยบินควรปล่อยบินในวันที่อากาศดี ผมเคยมีประสบการณ์ปล่อยนกแล้วไม่นานฝนมาและลมแรงมาก สงสารนกครับ มันฝืนธรรมชาติไม่ได้ ลมพัดกระเด็น บ้างก็บินชน บางตัวลงมาได้ก็ตาหูเหลือก เกร็งๆกลัวๆก็มี สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเวลานกบินที่บ้านก็คือเราได้สังเกตนกบินที่บ้านถ้าตัวไหนไม่บิน ไม่อยากบินก็ตรวจสุขภาพนกตัวนั้นได้เลยว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ มันแน่นอนธรรมชาตินกนั้นอยากบินอยู่แล้วแต่ถ้ามันไม่ยอมบิน บินเดี๋ยวเดียวก็ลงแทรป ลงกรง มีปัญหาแน่

เราควรยึดหลักให้ดีก่อนว่า การฝึกซ้อมนกนั้นไม่ได้หมายความว่าทำให้นกสุขภาพดีขึ้นหรือแข็งแรงขึ้น เพราะถ้าไม่จำหลักนี่ก่อนละก็ตะบี้ตะบันปล่อยนกดีๆก็มีโอกาสเสียหายได้

การซ้อมนกนอกสถานที่ควรจะเริ่มจากใกล้ๆไม่กี่กิโลเมตรจากบ้าน ควรฝึกให้นกชินตะกร้าก่อน หรือ ชินต่อการอยู่ชั้นเหล็ก การออกจากกรงเหล็ก การเดินทาง การจับนกลงตะกร้าซึ่งแน่นอนใหม่ๆนกตื่นตกใจแน่ และ ไม่ได้หลับพักผ่อนในช่วงแรกๆดังนั้นควรเริ่มจากระยะทางที่ไม่ไกลก่อน ควรเปิดทางในวันที่อากาศดีมากๆ การซ้อมนกพวกที่ซ้อมตะกร้า ปล่อยน้อยๆตัวจะฝึกให้นกจำทาง ตัดสินใจได้ดีกว่าปล่อยมากๆเป็นชั้นแต่ทำไงได้ ไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลา มีทุนทรัพย์เหมือนกัน ดังนั้นมันก็เหมือนมีแฮนดี้แคปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นสูตรที่ชนะแน่นอนนะ นกที่ไม่พร้อม ไม่สมบูรณ์ กินข้าวไม่ดี ข้าวย่อยไม่ดีก็ไม่ควรนำไปซ้อม หรือ นำไปแข่ง อยู่บ้านพักรักษาตัวให้ดีก่อนดีกว่า สมัยนี้นกที่ไม่พร้อมนะโอกาสชนะนั้นแทบจะไม่มี ดังนั้นไม่ว่าจะบินบ้านหรือนำนกไปซ้อมหรือไปแข่งควรสังเกตสุขภาพนกแต่ละตัวให้ดี พร้อมถึงจะจับลงไปซ้อมดีที่สุดครับ อย่าลืมนะครับว่าขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญก่อนนกขึ้นแข่ง การบิน

การซ้อมนั้นเพื่อปูทาง สร้างเส้นทางให้นกบินกลับบ้าน และ เป็นการสร้าง "ความมั่นใจ" ให้กับนก ขณะเดียวกันก็เป็นการฝึกให้นกคิด และ ที่สำคัญให้มัน "ตัดสินใจ" ในเส้นทางที่ตนเองกลับอย่างเด็ดเดี่ยว นกนะมันเป็นสัตว์ที่มีนิสัยที่ติดกันเป็นฝูงเป็นกลุ่ม เวลาบินก็ชอบที่จะบินเป็นกลุ่ม สนุกสนาน เวลาซ้อมเวลาแข่งนะมันไม่ได้บินตัวเดียวกลับ มันบินมาเป็นกลุ่มไม่มากก็น้อย ใกล้บ้านแล้วถึงแยกจากกัน ไอ้ตรงที่ตัดสินใจแยกจากกันนี่แหละครับสำคัญมันมาจากการที่เราฝึกบินที่บ้านและที่สำคัญจากการซ้อมและทำให้มีผลถึงวันแข่ง

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่ายังไงเสียนกนะมันไม่ได้บินมาตัวเดียวแน่ๆก็ดูจากที่เราบินบ้าน บินซ้อมและโดยเฉพาะวันแข่งมักจะมีนกมาส่งนกเราถึงบ้าน บ้างก็มาบินวน บ้างก็ลงกรงก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ และ นกของเราเองก็หายไปเช่นกันเพราะเรื่องนี้ไง
การซ้อมนกนั้นนกช่วงนี้ก็เริ่มปรับตัว ปรับร่างกาย ระบบกล้ามเนื้อ ระบบทางเดินหายใจทำงานเต็มที่ ช่วงนี้ทีมนกที่พร้อมกลับได้ตามเวลา สภาพดี ก็สามารถเริ่มขยับเพิ่มระยะทางไกลขึ้นไปแต่ไม่ควรกระโดดมากเกินไป และ ไม่ควรซ้อมนกถี่จนเกินไป ให้โอกาสมันได้พักผ่อนให้เต็มที่บ้าง จะดีกว่า

6) "สุขภาพนก" องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของนกไม่ว่าจะนกพันธุ์ หรือ นกแข่งก็คือ การมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ถ้านกขาดสิ่งนี้ไปก็ไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลย การดูแลนกนั้นมาจากสุขภาพที่ดีของพ่อแม่ สภาพของกรงนกที่เหมาะสม การเลี้ยงดูลูกนกตั้งแต่เด็กจนโต การให้อาหารที่ถูกหลัก การรู้จักให้ยาที่ทั้งป้องกันและรักษาที่ถูกต้อง การให้วัคซีนที่สำคัญกับนก นกแข่งนั้นใช้พลังงานมาก ถ้าลองคิดดูว่าชีวิตมันนั้นบินอยู่บนท้องฟ้าตั้งแต่เกิดจนแข่งเสร็จเป็นระยะทางกี่กิโลเมตร หรือ นับง่ายๆว่านกซ้อมกี่ครั้งในการแข่งหนึ่งสายและแข่งอีกกี่ครั้ง กี่กิโลเมตร จะเห็นได้ว่านกนั้นใช้พลังงานมากดังนั้น อาหาร วิตามิน ยา ต้องพร้อมและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนกแข่ง ต้องให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ

การดูแลนกนั้นต้องดูแลกันตลอดทุกวัน สังเกตุนกในกรงให้ดีว่ามีอาการผิดปรกติไหม กินปรกติไหม ถ้าตัวไหนไม่กินมีปัญหาแน่ นกที่ป่วยหลายๆตัวในกรงพร้อมๆกันนั้นเป็นปัญหาหนัก อาจเกิดจากการระบาดของโรค การดูแลที่ไม่ได้ สภาพกรงที่ไม่ดี นกมีจำนวนมากเกินไปก็เป็นได้

นกที่ไม่สบายไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ เพียงแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ดูอย่าง White Francis ที่ 1 เชียงรายปี 2009 ของผม แข่งอยู่ดีๆ ระยะกลางมันไม่สบายต้องเอาออกจากกรงนกแข่งรักษา 3 อาทิตย์จนอาการดีก็นำขึ้นมาใหม่แข่งก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นและมาเก่งในระยะไกล ดังนั้นโอกาสของนกนั้นมีเสมอถ้าเรารักษามันถูกต้อง และ ทันเวลา มันก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งได้

เรื่องการให้ยานั้น ผมเห็นหลายกรงให้ยาของคนบ้าง ยาของสัตว์อื่นๆเช่นหมู วัวบ้าง ขนาดของยา การให้ และ ไอ้ที่แตกต่างกันนั้นก็มีผลมากนะครับ ยานะส่วนหนึ่งคำนวนจากน้ำหนักของสัตว์ ยาบางอย่างความเข้มค้นของยาต่างกัน การให้ก็ต่างกันเช่นยาฉีด ยากรอกปาก ยาใส่ในน้ำ ยาคลุกอาหาร ก็ต้องคิดกันให้ดีนะครับว่าเราให้ถูกต้องหรือไม่

การให้ยาก็ต้องดูช่วงเวลาให้ดี ถ้าช่วงแข่งคุณมีเวลาน้อยแน่ในการรักษา ขนาดความแรงของยาก็ควรต้องมากขึ้นเพื่อให้มันหายเร็ว เพราะนกป่วยนั้นมันก็ไม่กินอาหาร ร่างกายก็เริ่มโทรม ดังนั้นอะไรที่ให้ผลเร็วก็ต้องคำนึงถึงด้วย

สุดท้ายสุขภาพนกนั้นสำคัญมากๆ ถ้าอยากชนะ นกก็ต้องมีสุขภาพที่ดี

ก็จบครบองค์ประกอบทั้งหกที่สำคัญของกีฬานกพิราบแข่งเรา ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขาดตกบกพร่องไปก็เป็นผลให้เราไปไม่ถึง "ฝัน" แน่

ก็ขอเรียนอีกครั้งว่า เรื่องที่เขียนนี้ก็เป็นแค่องค์ประกอบที่สำคัญ มันยังมีเรื่องปลีกย่อยอีกพอควรดังนั้นเรื่องที่เขียนนี้เป็นอะไรที่เป็นข้อคิด เป็นอะไรที่เราควรวิเคราะห์ถึงสถาพแวดล้อมของนก ของกรงของตัวเราเอง วิธีการที่ใช้อยู่มีอะไรที่ต้องปรับปรุงไหม สูตรที่ตนเองจำมา เชื่อมา ฟังมามันมีเหตุมีผลดีพอไหม?

สำหรับท่านใดที่สนใจบทความเก่าที่ผมได้เขียนไว้ใน "สรรสาระ" ก็หาอ่านกันได้ที่

www.francisloft.com

กรุณาเข้า สู่ระบบ ก่อนทำการเขียนข้อความ

สรรสาระ 8/12 : 6 องค์ประกอบของความสำเร็จ ภาค 2

FRANCIS LOFT

บทความ ข่าวสาร